วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม 2568 14:39น.

วิริยะประกันภัย จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือลูกค้าเร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมเพิ่มคู่สาย 1557 รองรับแจ้งเหตุ 24 ชม.

4 ธันวาคม 2025

         วิริยะประกันภัย เดินหน้ามาตรการรับมือวิกฤตอุทกภัยภาคใต้ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและเร่งช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง หลังน้ำท่วมสร้างความเสียหายวงกว้าง พร้อมปฏิบัติการ FIRST AID ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ประสานเครือข่ายรถยก รถลาก กู้รถยนต์ออกจากพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุรองรับผู้เอาประกันภัยจำนวนมาก ผ่านสายด่วน 1557 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ วิริยะจิตอาสาทั่วไทยยังร่วมระดมธารน้ำใจจัดเตรียมถุงยังชีพและสิ่งของบรรเทาทุกข์ ส่งต่อความช่วยเหลือถึงผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

 

        นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิต บ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอุทกภัยที่เกิดขึ้นฉับพลันในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ในอีกหลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง และต้องคอยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยปรับระบบการรับแจ้งเหตุผ่านช่องทางสายด่วน 1557 ทั้งการเพิ่มคู่สาย และการโอนรับแจ้งจากศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนหาดใหญ่ที่ยังไม่สามารถเปิดทำการตามปกติได้ ไปยังศูนย์ฯ สุราษฎร์ธานี และศูนย์ฯ ราชปรารภ กรุงเทพฯ เพื่อให้บริการได้ต่อเนื่อง

        “สำหรับข้อมูลการรับแจ้งเหตุความเสียหายรถยนต์จากผู้เอาประกันภัย ตามรายงานของศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ภาคใต้ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2568 มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ จำนวนรวมประมาณ 4,300 คัน มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการประเมินความเสียหาย โดยพื้นที่ที่มีรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด คือ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 3,800 คัน ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดสงขลา จำนวน 156 คัน จังหวัดปัตตานี จำนวน 75 คัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 56 คัน จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 28 คัน จังหวัดพัทลุง จำนวน 28 คัน และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย ส่วนด้านความเสียหายของบ้านเรือน ในขณะนี้มีการแจ้งเคลมเข้ามาประมาณ 180 หลัง และคาดว่าอาจมีการแจ้งเพิ่มเติมในระยะต่อไปเมื่อประชาชนสามารถจัดการความเป็นอยู่เบื้องต้นได้แล้ว” คุณอมรกล่าว

        คุณอมร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจชั่วคราวขึ้นที่ศูนย์ฯ สงขลา เพื่อเป็นฐานบัญชาการรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน โดยภายหลังจากสถานการณ์ในพื้นที่หาดใหญ่คลี่คลายลง จึงย้ายศูนย์ฯ เฉพาะกิจมาอยู่ที่ศูนย์ฯ หาดใหญ่ พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ และเจ้าหน้าที่สรุปความเสียหาย จากศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ภาคใต้ มาช่วยงานที่ศูนย์ฯ หาดใหญ่ โดยมีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติงาน 8 โซน ในการลงพื้นที่พบลูกค้าถึงบ้านเพื่อดำเนินการสำรวจความเสียหาย และจัดการด้านสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็วที่สุด

        นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความเชี่ยวชาญจากการปฏิบัติการ FIRST AID ในเหตุการณ์อุทกภัยหลายครั้งที่ผ่านมา และมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ที่จะต้องใช้ความรวดเร็วในการเข้าไปยังพื้นที่น้ำท่วมที่สามารถเข้าถึงได้ และนำรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิม

        “บริษัทฯ ได้มีการประสานรถยกประมาณ 70 คัน เพื่อเข้าไปดำเนินการยกรถออกจากพื้นที่ประสบภัย โดยระดมรถยกจากหลายจังหวัด รวมถึงจากกรุงเทพฯ เพื่อเร่งช่วยเหลือลูกค้า แม้จะประสบอุปสรรคจากถนนที่ยังเต็มไปด้วยเศษซาก ขยะ และรถที่จอดกีดขวางจำนวนมากก็ตาม ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าดำเนินการยกรถอย่างน้อย 2,000 คันภายใน 3 วัน โดยได้จัดหาพื้นที่จัดเก็บรถที่ปลอดภัย สามารถรองรับรถได้ประมาณ 2,000-3,000 คัน เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมหากเกิดเหตุพายุหรืออุทกภัยซ้ำ ขณะเดียวกัน พนักงานที่ทำหน้าที่ในการเคลมสินไหมฯ ได้เปิดเคลมไปแล้วราว 1,000 คัน และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1- 2 วัน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ในการติดต่อประสานลูกค้าทุกรายเพื่อสอบถามความพร้อมในการยกลากรถ รวมถึงนัดหมายเข้าตรวจสภาพความเสียหายตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลูกค้าที่พร้อมสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ทันทีผ่านศูนย์ฯ สงขลาและหาดใหญ่ รวมถึงศูนย์ฯ ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย หรือ สายด่วน 1557 กรณีหากมีการจัดซ่อมผู้เอาประกันภัยสามารถนำรถเข้าสถานที่จัดซ่อมตามความประสงค์หรือเข้าศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย” คุณอมร กล่าว

        นอกจากนี้ กลุ่มวิริยะจิตอาสาของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารและพนักงานจากสาขาและศูนย์ฯ  ยังได้ลงพื้นที่สำรวจรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมควบคู่กับการเก็บข้อมูลความต้องการด้านเครื่องอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งมายังศูนย์ประสานงานในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อประมวลผลและจัดเตรียมสิ่งของจำเป็น รวมถึงอาหารพร้อมรับประทาน ก่อนประสานเครือข่ายจิตอาสา ทั้งตัวแทน/นายหน้าประกันวินาศภัย ดีลเลอร์รถยนต์ รวมถึงคู่ค้าพันธมิตรในพื้นที่ต่าง ๆ เข้ากระจายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

        ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอส่งมอบกำลังใจและความห่วงใยแก่ผู้ประสบภัยทุกท่าน ให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย โดยบริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมฟื้นฟูและเยียวยาให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็วสุด.

 

 


คลิปวิดีโอ