วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน 2568 18:19น.

RBF รายได้ Q3 แตะ 1,078 ลบ. ยอดขายต่างประเทศพุ่งต่อเนื่อง

19 พฤศจิกายน 2025

         พ.ท.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการบริษัท และนายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบและส่วนผสมอาหารชั้นนำ ตอกย้ำความสำเร็จในการขยายตลาดระดับโลก เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่สาม ประจำปี 2568 (Q3/68) โดยมีผลประกอบการที่น่าประทับใจจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดต่างประเทศ

         นายสุรนาถ เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568)  บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,078.26 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 101.29 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวมาจากยอดขายในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่ง RBF ได้วางฐานการผลิตไว้ในประเทศเหล่านี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อความต้องการของตลาด

         แม้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากภาวะต้นทุนบางรายการที่ผันผวน แต่โดยรวมรายได้ยังเติบโตแข็งแกร่งจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง ซึ่งสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 11.54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไปเพิ่มขึ้น 4.90 ล้านบาท (4.71%)  และ กลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งและซอส เพิ่มขึ้น 8.66 ล้านบาท  (1.57%) สะท้อนถึงความแข็งแรงของรายได้ที่มาจากหลายกลุ่มธุรกิจ ช่วยผลักดันการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

         ส่วน 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 3,192.10 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงานภายในประเทศ 2,475.21 ล้านบาท และรายได้จากการส่งออกต่างประเทศ716.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 303.89 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งแม้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน และยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

         นายสุรนาถ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2568 ยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรจะทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของยอดขายในตลาดต่างประเทศ และมาตรการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ อีกทั้งต้นทุนวัตถุดิบบางส่วนเริ่มผ่อนคลาย โดยเฉพาะราคาข้าวสาลีที่ปรับลดลง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นในระยะถัดไป

         ด้าน พ.ท.พญ.จัณจิดา เปิดเผยว่า กลยุทธ์การเติบโตระยะยาว บริษัทจะเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย เป็นตลาดหลัก พร้อมขยายสู่ ปากีสถานและจีน ผ่านพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายในแต่ละประเทศ ควบคู่กับการทำตลาดโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านยอดขายและการรับรู้แบรนด์

        โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินเดีย ถูกมองว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและจะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีศักยภาพสูงสุด โดยเรามั่นใจว่าการลงทุนและการทุ่มเททรัพยากรในอินเดีย รวมถึงการทำตลาดเชิงรุกในเวียดนามและอินโดนีเซีย จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายในปริมาณที่สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ”

        พ.ท.พญ.จัณจิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อมั่นในศักยภาพ ความรู้ และประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้าไทยในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโต โดยคาดว่าภาพรวมปี 2569 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการดำเนินงานในต่างประเทศเป็นหัวใจสำคัญ โดยบริษัท ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ จากปัจจุบัน 30% ให้เพิ่มขึ้นเป็น 35-40% และต่อยอดสู่ความยั่งยืนในอนาคต”

          นอกจากนี้ การเข้าซื้อหุ้น Big Lot ของผู้บริหารระดับสูง ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและโอกาสการเติบโตในระยะยาวของ RBF อีกด้วย


คลิปวิดีโอ