เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ร่วมมอบเครื่องดูดเสมหะ จำนวน 11 เครื่อง แก่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อใช้ในการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งสร้างอาชีพและพัฒนาทักษะให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มสตรีและครอบครัวกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ได้อย่างมีคุณภาพ
โครงการนี้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 11 ปีของมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม โดยร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนขององค์กรในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) โดยเฉพาะมิติสังคมที่มุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มที่ขาดโอกาส พร้อมสนับสนุนบทบาทของภาครัฐในการยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุในสังคมไทย ซึ่งเครื่องดูดเสมหะที่มอบให้ในครั้งนี้ เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง โดยจะนำไปใช้เป็นสื่อฝึกปฏิบัติจริงในหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ (care giver) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีทักษะที่ถูกต้องและพร้อมนำไปใช้งานจริงภายหลังสำเร็จการอบรม
การอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุถือเป็นการดูแลด้านสังคมที่ให้ผลตอบแทนอย่างรอบด้าน ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาวะของประชาชน โดยประโยชน์ทางตรง คือ การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ในขณะที่ประโยชน์ทางอ้อม คือ การยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน ช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุข และส่งเสริมให้สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
สำหรับกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ นางพรนิภา มาสิลีรังสี รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นผู้รับมอบ โดยมี นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และ นายปราโมทย์ ศักดิ์กำจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบเครื่องดูดเสมหะ จำนวน 11 เครื่อง
ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ยังคงเดินหน้าส่งเสริมโอกาสทางสังคม ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาอาชีพ ภายใต้แนวคิด “การให้ที่ยั่งยืน” เพื่อสร้างประโยชน์ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคมโดยรวม อันเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญขององค์กรในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ตลอดจนตอกย้ำสโลแกนของมูลนิธิเมืองไทยยิ้มตลอดระยะเวลา 11 ปี คือ ร่วมสร้างรอยยิ้มให้สังคมไทย