วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 17:10น.

FWD จัดเวิร์กช็อป “ครูไทยเก่งการเงิน”เพราะครูคือกุญแจสำคัญในการสร้างเด็กไทยให้แข็งแกร่งทางการเงิน

24 พฤศจิกายน 2025

         “เราอาจจะสอนให้เด็กคิดเลขได้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การให้เด็กเข้าใจว่าเงินแต่ละบาทมาจากไหน และควรใช้ยังไงให้คุ้มค่า” ครูไมค์–อิสรีย์ ตั้งติรวัฒน์ ครูคณิตศาสตร์จากโรงเรียนทุ่งมหาเมฆ กล่าวหลังเข้าร่วมเวิร์กช็อป “ครูไทยเก่งการเงินภายใต้โครงการ JA SparktheDream ที่ FWD ประกันชีวิต ร่วมกับมูลนิธิจูเนียร์อะชีฟเมนท์ประเทศไทย (JA Thailand) จัดขึ้นในรูปแบบ Train the Trainer เพื่อเสริมความรู้ด้านการวางแผนและบริหารการเงินให้ครู พร้อมต่อยอดสู่การสอนเด็กๆ ให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

          เดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การปลูกฝังความรู้ทางการเงินตั้งแต่วัยเรียนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนรุ่นใหม่บริหารจัดการชีวิตได้อย่างมั่นใจและวางแผนการเงินอย่างมีระบบ เพราะความรู้ทางการเงินคือรากฐานของคุณภาพชีวิตที่ดี และครูคือผู้ถ่ายทอดความรู้ที่สำคัญนี้ให้เยาวชน ดังนั้นเราจึงควรเริ่มจากการเสริมศักยภาพให้ครูก่อน นี่คือที่มาของการต่อยอดโครงการ JA SparktheDream สู่ ‘ครูไทยเก่งการเงิน’ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความรู้ทางการเงินให้ครู สร้างความมั่นใจในการวางแผนการเงินและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ”

        เวิร์กช็อปจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วัน มีครู 33 คนจาก 10 โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้เรื่องการเงินผ่านการลงมือทำจริง โดยมีทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก Business Training Center ของ FWD นำโดยคุณพอลล่า–ศรีประไพ นามแสน ที่ปรึกษาการเงิน AFPT™ (Associate Financial Planner Thailand)  และคุณบอล–อภิวิชญ์ ไพศาลทรัพย์ นักวางแผนการเงิน Certified Financial Planner (CFP) ทำหน้าที่บรรยายและให้คำแนะนำตลอดการอบรม พร้อมด้วยวิทยากรจิตอาสาจาก FWD รวม 15 คน ร่วมสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

         โดยเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานการจัดทำรายรับ-รายจ่าย การจัดการหนี้ การออม การลงทุน การตั้งเป้าหมายทางการเงินแบบ SMART (Specific-Measurable-Achievable-Relevant-Time-bound) ไปจนถึงงบการเงินส่วนบุคคล เพื่อให้เห็นภาพการจัดการรายรับ-รายจ่าย ทรัพย์สิน และหนี้สินอย่างเป็นระบบ ไฮไลท์คือกิจกรรมบอร์ดเกม Wishlist ที่จำลองสถานการณ์ชีวิตจริง ภายใต้แนวคิด “จัดสรรเงิน เติมความฝัน” ที่ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจหลักการเงินอย่างสนุกสนานและเข้าถึงง่าย จากนั้นลงลึกไปในเนื้อหาเรื่อง ประกันภัย การบริหารความเสี่ยง ผ่านการเล่นเกม Risky Lossy ที่จำลองสถานการณ์ความเสี่ยงในชีวิตให้เห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อม ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ครูได้เห็นตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และนิสัยการใช้เงินที่ควรปรับตลอดสองวันของกิจกรรมเวิร์กช็อป ครูได้เรียนรู้ทั้งแนวคิดและการลงมือปฏิบัติจริง ช่วยให้เห็นภาพชัดว่าการบริหารเงินเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ที่สามารถส่งต่อให้กับนักเรียนได้

          ครูผึ้ง–ทัศน์วรรณ บุญมาก จากโรงเรียนโฆสิตสโมสร เล่าว่า การอบรมครั้งนี้ทำให้เข้าใจว่า การวางแผนการเงินคือการวางแผนชีวิต ถ้าปูพื้นฐานทางการเงินให้แก่เด็กๆ ได้ตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ก็จะส่งผลดีกับตัวเด็กเองในอนาคตระยะยาว “สมัยเป็นเด็ก เราแทบไม่ได้เรียนเรื่องการเงินอย่างจริงจัง และไม่เคยสนใจการวางแผนการเงิน แต่เมื่อได้เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้ ทำให้เข้าใจว่า หากเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ เราจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายมากขึ้น” กิจกรรมที่ประทับใจที่สุดคือบอร์ดเกม Wishlist ที่ทำให้เห็นตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และนิสัยการใช้เงินของตัวเองที่ควรปรับ เธอจะนำแนวคิดนี้ไปสอนนักเรียนผ่านการทำงบดุลส่วนตัว เพื่อให้เด็กรู้จักแยกรายรับ-รายจ่าย และเห็นคุณค่าของการวางแผนทางการเงินตั้งแต่ยังเด็ก

        ด้าน ครูบูเก้–ชุติมา บุญฤดี จากโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก เห็นว่าความรู้ทางการเงินคือ “วินัยชีวิต” “อยากให้เด็กมีคติประจำใจว่า ‘เก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้เสร็จแล้วค่อยเก็บ’ เธอหวังว่าเด็กจะได้เรียนรู้ว่าเมื่อผู้ปกครองให้เงินมา ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมด และสามารถกลับไปบอกต่อผู้ปกครองได้ว่า เราสามารถเก็บออมได้หลากหลายรูปแบบ เพราะ “ถ้าเด็กมีวินัยทางการเงิน เขาก็จะมีวินัยในการใช้ชีวิตที่ดี” หลังการอบรม เธอจะนำแนวคิดเรื่องการออมผ่านการลงทุน ความสำคัญของการทำประกันชีวิต มาแชร์ให้กับคนรอบข้างและส่งต่อถึงผู้ปกครอง โดยเด็กๆ สามารถเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวันผ่านเทคนิคการออมแบบง่ายๆ เช่น การหยอดกระปุก คุณครูยังวางแผนสร้างกิจกรรมออมเงินในห้องเรียนร่วมกันเพื่อจัดกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งจะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้การวางแผน ปลูกฝังความรับผิดชอบร่วมกัน ผ่านวิธีที่เข้าใจง่ายและสนุก

         ขณะที่ ครูไมค์–อิสรีย์ ตั้งติรวัฒน์ จากโรงเรียนทุ่งมหาเมฆ รู้สึกว่าการเรียนรู้ครั้งนี้เปิดโลกใหม่ให้กับครูคณิตศาสตร์อย่างเธอ ทำให้ได้กลับมาทบทวนการจัดการการเงินที่ผ่านมา และได้เรียนรู้การวางแผนการเงินในอนาคต เธอเตรียมนำแนวคิดเรื่องการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และการวางแผนการใช้เงิน ไปปรับในบทเรียนคณิตศาสตร์ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง พร้อมปลูกฝังคุณค่าของเงินและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล “เราอาจจะสอนให้เด็กคิดเลขได้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือ การให้เด็กเข้าใจว่าเงินแต่ละบาทมาจากไหน และควรใช้ยังไงให้คุ้มค่า”

          หลังจบกิจกรรม “ครูไทยเก่งการเงิน” คุณครูบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ พร้อมเครื่องมือที่จะทำให้การสอนเรื่องการเงินง่ายขึ้น หลายคนตั้งใจนำแนวคิดไปต่อยอดในห้องเรียน ผ่านเกมหรือกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กเข้าใจการออม การใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย และการวางแผนที่เหมาะกับช่วงวัย เพื่อให้เด็กเห็นคุณค่าของการออม การใช้เงินให้คุ้มค่า และเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเอง กิจกรรมนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยจุดประกายความคิดให้ครูนำแนวทางไปต่อยอด และส่งต่อไปถึงเด็กๆ ในห้องเรียน


ข่าวล่าสุด ประกัน more
คลิปวิดีโอ