วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 07:25น.

สรรพสามิตเร่งปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายจับกุมได้กว่า 3,200 คดี

18 พฤศจิกายน 2025

        กรมสรรพสามิตเดินหน้าปราบปรามสินค้ายาสูบผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมบุหรี่ผิดกฎหมายได้ 3,247 คดี ของกลาง 620,204 ซอง คิดเป็นมูลค่าภาษีที่รัฐสูญเสียกว่า 32.89 ล้านบาท ค่าปรับและประมาณการค่าปรับ รวมกว่า 453.49 ล้านบาท ตอกย้ำให้เห็นถึงความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย การคุ้มครองผู้บริโภค และการสร้างความเป็นธรรมทางการค้า ด้วยการพัฒนาการทำงานเชิงรุกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และขยายความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการสกัดกั้นยาสูบผิดกฎหมาย

         ดร. พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินมาตรการปราบปรามสินค้ายาสูบที่มิชอบด้วยกฎหมายอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน (18 พ.ย. 2568) กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับสินค้ายาสูบที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 3,247 คดี ตรวจยึดของกลาง จำนวน 620,204 ซอง คิดเป็นมูลค่าภาษีที่รัฐสูญเสียกว่า 32.89 ล้านบาท พร้อมทั้ง ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและประมาณการค่าปรับรวม 453.49 ล้านบาท ผลการดำเนินงานดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมสรรพสามิตในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน เพื่อป้องกันและลดการแพร่กระจายของยาสูบที่ไม่ได้เสียภาษี อันเป็นการสร้างความเป็นธรรมด้านการแข่งขันทางการค้าและคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศ

         อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตเดินหน้าพัฒนาและยกระดับการทำงานเชิงรุก โดยเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการติดตาม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงขยายความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อปิดช่องทางการเคลื่อนย้ายสินค้าผิดกฎหมาย พร้อมทั้งสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสกัดกั้นยาสูบหนีภาษี ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดที่พบการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ

          อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมสรรพสามิตเชื่อมั่นว่าการปราบปราม ที่มีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีการพัฒนาระบบข้อมูลในการตรวจสอบที่ทันสมัย และสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายสรรพสามิตเกิดผลเป็นรูปธรรม นำไปสู่ระบบการจัดเก็บภาษีที่ยุติธรรม โปร่งใส และยั่งยืน อันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศต่อไป


คลิปวิดีโอ