วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน 2568 14:18น.

“อเบอร์ดีน” คัดกองทุน RMF ตัวเด็ด ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการลงทุนชวนเกษียณอย่างมีแผนกับ “4 RMF” ครอบคลุมทุกมุมลงทุน

19 พฤศจิกายน 2025

         บลจ.อเบอร์ดีน ชี้โค้งสุดท้ายเตรียมตัวลดหย่อนภาษีให้คุ้มค่า แนะนำ 4 กองทุน “RMF” ตัวเด็ด ครอบคลุมทุกมุมลงทุน “หุ้นโลก-หุ้นไทย-หุ้นเอเชีย พร้อมตราสารหนี้ไทย” ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของนักลงทุน สร้างพอร์ตการลงทุนเติบโตมั่นคงไปกับกองทุน “ABGDD-RMF, ABSM-RMF, ABAPAC-RMF, ABSI-RMF”

        นายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ. อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่หลายคนเร่งมองหาแนวทางลดหย่อนภาษีให้คุ้ม ซึ่งหนึ่งในทางเลือกยอดนิยม คือ การลงทุนกับกองทุนลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีมูลค่า AUM รวมกันกว่า 467,264 ล้านบาท เติบโตจากปี 2567 ถึง 1.94% สะท้อนว่าคนไทยให้ความสนใจกับลงทุนเพื่อเกษียณมากขึ้นกว่าเดิม

         เหตุผลที่กองทุน RMF ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการหลัก ๆ ได้ครบ 3 ด้านในกองทุนเดียว คือ 1. ตอบโจทย์เรื่องภาษี เงินลงทุนสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30% ของรายได้ และเมื่อรวมกับกองทุนบำนาญอื่น ๆ แล้ว จะลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากวางแผนภาษีให้คุ้มค่าทุกปี 2. ตอบโจทย์การออมเงินระยะยาว นอกจากจะลดหย่อนภาษีได้แล้ว กองทุน RMF ยังถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อเกษียณโดยเฉพาะ มีเงื่อนไขของระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจนกำหนดให้ต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีเต็ม และขายคืนได้ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันการขายกองทุนระหว่างทาง และช่วยสร้างวินัยในการออม ทำให้มีเงินเก็บสำหรับใช้ในวัยเกษียณได้จริง และ 3. ตอบโจทย์การลงทุนสำหรับคนที่มองหาโอกาสเติบโตของราคาจากการลงทุนในระยะยาว

         นอกจากนี้ อีกจุดเด่นของกองทุน RMF นั้นคือการที่มีนโยบายการลงทุนและสินทรัพย์หลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะกลุ่มหุ้นไทย – ต่างประเทศ กลุ่มตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงของตัวเองได้ พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าเงินออมทั่วไป จึงส่งผลให้กองทุน RMF กลายเป็นหนึ่งในกองทุนที่หลายคนให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษี หรือคนที่กำลังเริ่มวางแผนเกษียณอย่างจริงจัง

        “RMF เป็นการลงทุนในระยะยาว การเลือกกองทุน จึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าพอร์ตการลงทุนจะเติบโตอย่างที่ตั้งใจไว้ และพร้อมรองรับเป้าหมายในอนาคตได้จริง ซึ่ง บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) ในกลุ่ม Aberdeen Investments ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลกมีเครือข่ายครอบคลุมกว่า 25 สาขาทั่วโลก และได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนมานานกว่าหลายสิบปี ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนาน ทำให้ Aberdeen Investments โดดเด่นในการคัดเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก” นายโรเบิร์ต กล่าว

        บลจ.อเบอร์ดีน แนะนำ 4 กองทุนเด่นจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการวิเคราะห์และคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน และบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ ได้แก่

         1.กองทุน ABGDD-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น เพื่อการเลี้ยงชีพ) ลงทุนหุ้นโลกผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MIncA USD ซึ่งมีนโยบายมุ่งลงทุนในหุ้นปันผลเด่นทั่วโลก ทั้งหุ้นคุณค่า (Value) และหุ้นเติบโต (Growth) รวมกว่า 80-100 บริษัท ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมจากองค์กรชั้นนำทั่วโลกที่มีศักยภาพการเติบโตระยะยาว และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยกองทุนหลักตั้งเป้าหมายจ่ายปันผลรายเดือนสม่ำเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาจ่ายปันผลรายเดือนเฉลี่ยประมาณ 5-6% ต่อปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม 2563 (ที่มา: Aberdeen, กันยายน 2568) ส่วน ABGDD-RMF ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล แต่จะนำเอาเงินปันผลที่ได้รับจากกองทุนหลักนำกลับไปลงทุนต่อ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ผ่านการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคง และยืดหยุ่นสูง โดยกองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6

         2.กองทุน ABSM-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ)  ลงทุนหุ้นไทย มุ่งเน้นหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต โดยคัดเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถันประมาณ 20–30 บริษัท ผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชิงลึกแบบ Bottom-up และใช้แนวทางการลงทุนแบบ High Conviction เน้นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท (ที่มา : Aberdeen, ตุลาคม 2568) เหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นไทย และมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เติบโตในระยะยาว จากการลงทุนในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต โดยกองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6

         3.กองทุน ABAPAC-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ) กองทุนหุ้นเอเชียที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก abrdn Pacific Equity Fund SGD class โดยมีนโยบายลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมญี่ปุ่น) เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตของเงินทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยกองทุนเน้นคัดเลือกหุ้นใน 3 ธีมการลงทุนหลักที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ Innovation นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคต, Globalization 3.0 การเติบโตของธุรกิจที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกยุคใหม่และ New Consumption พฤติกรรมการบริโภคยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว (ที่มา : Aberdeen, ตุลาคม 2568) เหมาะสำหรับผู้ที่มองเห็นโอกาสและศักยภาพในตลาดเอเชีย และต้องการลงทุนตามเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในระดับโลก ทั้งนี้ กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6

        4.กองทุน ABSI-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ) กองทุนตราสารหนี้ไทยที่ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบันพอร์ตลงทุนมีอายุตราสารเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี โดดเด่นด้วยความผันผวนต่ำ สภาพคล่องสูง และมีโอกาสได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ในอนาคต (ที่มา : Aberdeen, ตุลาคม 2568) เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความผันผวนต่ำและสภาพคล่องสูง (กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 4)

        พิเศษ! สำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนในกองทุนประเภท RMF ที่ร่วมรายการกับอเบอร์ดีน ทุกยอดการลงทุน 50,000 บาท ผู้ลงทุนจะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2568 (หรือวันทำการสุดท้ายของปี) ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

 


ข่าวล่าสุด การเงิน หุ้น more
คลิปวิดีโอ