วันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม 2568 21:21น.

ทีทีบี ดึงกูรูวงการ “อาหาร-เครื่องดื่ม-สินค้าอุปโภคบริโภค” แชร์โอกาสฝ่าวิกฤต หนุนกลยุทธ์ลดต้นทุนด้วย LEAN ผสาน AI และ ESG

14 กรกฎาคม 2025

       ในยุคที่ความผันผวนของเศรษฐกิจและการค้าโลกส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รวมถึงความจำเป็นในการปรับตัวตามแนวคิด ESG เพื่อเข้าถึงตลาดต่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต ได้จัดหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่น 20 ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค เห็นแนวโน้มของอุตสาหกรรมได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งนำเสนอเครื่องมือที่จะช่วยลดต้นทุน โดยมุ่งลดความสูญเปล่า (Waste) และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ยังมุ่งสร้างโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นด้วยเทรนด์ธุรกิจอย่าง Business AI และแนวคิด ESG โดยดึงกูรูในวงการอุตสาหกรรมนี้ มาแบ่งปันประสบการณ์จริงที่ประสบความสำเร็จจากการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

       ทีทีบีเล็งเห็นว่าแนวคิดการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความแข็งแรงให้กับองค์กร โดยการนำเครื่องมือ LEAN มาช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ลดความสูญเปล่า และสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทางทีทีบีได้ใช้องค์ความรู้เรื่อง LEAN เป็นแกนหลักที่ช่วยธุรกิจสร้างรากฐานให้แข็งแรง โดยจัดต่อเนื่องมาถึง 19 รุ่น ใน 8 อุตสาหกรรรม และในรุ่น 20 ของปีนี้ พบว่าเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทางหลักสูตรจึงนำแนวคิดนี้มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ความรู้ที่จะช่วยธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าในส่วนของการจัดการคลังสินค้า การคาดการณ์ความต้องการ การปรับปรุงกระบวนการผลิต ไปจนถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชน สุดท้ายเพื่อให้การเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเกิดขึ้นได้ การทำธุรกิจบนพื้นฐานของ ESG (Environmental, Social, and Governance) จึงเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ธุรกิจยุคใหม่ควรนำมาใช้ การผสานแนวคิด LEAN และ เทคโนโลยี AI เข้าด้วยกัน เพื่อให้ธุรกิจที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนได้ในโลกยุคใหม่

       มุมมองของผู้ประกอบการธุรกิจ CJ More ที่ใช้ AI และ LEAN สร้างมาตรฐานใหม่ในองค์กร โดยนายวีรธรรม เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.เจ.มอร์ จำกัด ผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 6 ได้แบ่งปันประสบการณ์จากการนำความรู้เรื่อง LEAN ไปปรับใช้ในร้านสะดวกซื้อ CJ More ผ่านการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ Inventory ทำให้ค่าใช้จ่ายด้าน Inventory ต่อสาขาลดลงจาก 5 ล้านบาท เหลือ 3 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังนำหลัก 7 Wastes ไปใช้ในคลังสินค้า โดยกำหนดมาตรฐานเวลาและกระบวนการทำงาน ตั้งแต่รถซัพพลายเออร์จอดจนสินค้าเข้าคลัง เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จพร้อมกัน ขณะที่ CJ More ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคในแต่ละจังหวัด เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมเชิงลึก นอกจากนี้ ยังใช้จัดการซัพพลายเชน เลือกทำเลที่ตั้งสาขา และใช้ในการตรวจสอบการทุจริต โดยมีหลักคิดว่า “อย่ามอง AI เป็นแค่ซอฟต์แวร์ ให้มอง AI เป็นเพื่อน” ที่ต้องค่อย ๆ สอน ป้อนข้อมูลให้เข้าใจสิ่งที่เราต้องการ และควรเลือกบริษัท AI ที่พร้อมจะเติบโตและพัฒนาระบบร่วมกัน

       ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจแหนมดอนเมือง นายภาคภูมิ หอมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด ผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 10 ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการนำหลักของ LEAN ไปใช้ในกระบวนการผลิตว่า ทำให้บริษัทลดต้นทุนได้กว่า 2 ล้านบาท โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินเลย แต่เป็นการลงทุนด้วย “เวลาและทรัพยากร” ในการเข้าไปบริหารจัดการและควบคุมงาน ส่วนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ได้สร้าง “ไวรัล” ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว โดยยกกรณีศึกษา “แหนมตุ้มจิ๋ว” ที่กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากคลิปของ KOL ที่ชื่อว่า “แม่ตุ๊ก” ซึ่งทำให้เกิดคอมเมนต์ และการแชร์จำนวนมากในโซเชียลมีเดีย ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การสร้างไวรัลนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ต้องขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เหมาะสม และสามารถวางแผนการส่งต่อโมเมนตัมได้มีประสิทธิภาพ

       ขณะที่นายไตรรงค์ วิระพรสวรรค์ ผู้บริหาร บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกของเล่นไม้แบรนด์ PlanToys ผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 3 ได้แบ่งปันเรื่องการนำหลัก 7 Wastes และ LEAN ไปปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดของเสีย นอกจากนี้ ยังได้ประยุกต์ใช้แนวคิด ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนให้องค์กร จึงได้ออกแบบของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กด้วยวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นผู้บุกเบิกใช้ไม้ยางพาราที่หมดอายุการให้น้ำยางแล้ว และยังเน้นกระบวนการผลิตยั่งยืน โดยนำของเหลือทิ้งจากการผลิตมาเพิ่มมูลค่า PlanToys ยังได้ขยายแนวคิดเรื่องความยั่งยืนด้วยการพัฒนาของเล่นสำหรับเด็กพิเศษ ของเล่นสำหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด Better Aging รวมทั้งสร้าง Forest of Play เพื่อมอบพื้นที่การเรียนรู้ให้แก่ชุมชน และการเพิ่มบริการซ่อมแซม เพื่อยืดอายุการใช้งานของเล่นให้ยาวนานขึ้น

       ทีทีบี ยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการไทย ผ่านองค์ความรู้ที่หลากหลายภายใต้โครงการ finbiz by ttb อย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งในรูปแบบการจัดสัมมนา โซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก และทีทีบี เอสเอ็มอี ไลน์ บทความบนเว็บไซต์ของ ทีทีบี เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจได้นำองค์ความรู้ต่าง ๆ ไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง สามารถเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน


คลิปวิดีโอ