นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมงาน “เปิดตลาด Save Ones’ Grow” จัดโดยคณะทำงานด้านการพัฒนาความยั่งยืนและการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจของ บสย. โดยเชิญชวนผู้บริหารและพนักงานทั้งองค์กร เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างจิตสำนึกและแสดงถึงพฤติกรรมการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ณ ศูนย์การเรียนรู้ TCG Learning Center ชั้น 2 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568
กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จจากปีที่แล้ว ซึ่งมีการรวบรวมขยะ 3 ประเภท ได้แก่ E-Waste, เสื้อผ้าใช้แล้ว และขวด/ฝาน้ำพลาสติก จากพนักงาน โดยสามารถส่งต่อขยะ E-Waste ได้เกือบ 300 ชิ้น เสื้อผ้าใช้แล้ว 65 กิโลกรัม และขวดน้ำกับฝาอีกกว่า 20 กิโลกรัม เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ความพิเศษในปีนี้ นอกจากกิจกรรมรวบรวมขยะ 3 ประเภทแล้ว บสย. ยังเปิดเวทีมอบความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของป่าไม้และเส้นทางการกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทางยังปลายทาง จากกรมป่าไม้และบริษัท Wake up Waste ซึ่งเป็นบริษัท Startup ของ SCGC เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ภายในงานยังได้เปิด “บูธช้อปปิ้งสินค้ามือสอง” คุณภาพดี ราคามิตรภาพจากพ่อค้าแม่ค้าชาว บสย. และ “กิจกรรม Green Craft – Workshop เพ้นท์กระถางรักษ์โลก” ชวนเพ้นท์กระถางพร้อมรับต้นไม้กลับไปปลูกเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ปิดท้ายด้วยการประมูลของใช้มือสองที่มีคุณค่าจากผู้บริหารระดับสูง ผ่านกิจกรรม “Reborn : สมบัติผลัดกันชม” ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากพนักงาน บสย. โดยมีผลประมูลรวม 45,698 บาท ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปบริจาคมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อแสดงความอาลัยน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
งาน “เปิดตลาด Save Ones’ Grow” ในปีนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้บริหารและพนักงาน บสย. ทั้งสำนักงานใหญ่ และสำนักงานเขต โดยตลอดงานมีผู้ร่วมกิจกรรมผ่านทาง Online และ Onsite รวมกว่า 150 คน โดย บสย. สามารถรวบรวมเสื้อผ้าใช้แล้วเพื่อส่งต่อบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ภายใต้โครงการ “ส่งขยะกลับบ้าน” ได้ 46.2 กิโลกรัม และรวบรวมขวดน้ำและฝาน้ำพลาสติก ส่งต่อวัดจากแดง แปรรูปเป็นผ้าห่มและจีวรได้ 7.7 กิโลกรัม และขยะ E-Waste ส่งต่อ AIS กำจัดอย่างถูกวิธีภายใต้โครงการ “เปลี่ยน E-Waste เป็นเน็ตให้น้อง” จำนวน 62 ชิ้น โดยผลจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ สามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 1.03 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) พร้อมส่งต่อคุณค่าสู่ความยั่งยืนต่อไป
