บมจ.ไซมิส แอสเสท ประกาศชำระคืนหุ้นกู้รุ่น SASST254A และ SASST254B ครบถ้วน มูลค่ารวม 322.6 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพการบริหารการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา ฟากผู้บริหาร “รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์” ระบุเดินหน้าพัฒนา Branded Residence และโครงการ Mixed Use หลายแห่ง ตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 10-15% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตุนยอดขายรอโอนกว่า 5,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปี 68-69
นางสาวรีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศชำระคืนหุ้นกู้รุ่น SASST254A และ SASST254B ครบกำหนดไถ่ถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมมูลค่า 322.6 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้งสองรุ่นซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี ได้รับการชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยครบถ้วน สะท้อนศักยภาพในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินและความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของบริษัทฯ
ทั้งนี้ หุ้นกู้รุ่น SASST254A ออกเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 มูลค่า 238 ล้านบาท และครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 28 เมษายน 2568 ขณะที่หุ้นกู้รุ่น SASST254B ออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 มูลค่า 84.6 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยนักลงทุนได้รับชำระคืนตรงตามกำหนดทุกประการ
“ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการออกหุ้นกู้มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ได้แก่ การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเงินทุนสำรอง ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในระยะยาว”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence ภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับโลก อาทิ Cassia Rama 9 Bangkok, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Wyndham Garden Sukhumvit 42, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 รวมไปถึงการเพิ่มโครงการในรูปแบบ Mixed Use เจาะกลุ่มนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยประเมินจากยอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 5,200 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2568-2569
