นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG กล่าวว่าถึงประเด็น ข้อพิพาทชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า คงไม่มีผลกระทบกับบริษัท เพราะถือว่าพีทีจีเอง ไม่ได้ไปลงทุนในกัมพูชา ส่วนภาพรวมธุรกิจไตรมาส 2 แบบ QoQ เติบโตขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ภาพรวมการบริโภคพลังงานของประชาชนหดตัวลงทั้งประเทศ ซึ่ง PTG ยังสามารถเติบโตได้ดีกว่าการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Non Oil ที่ยังคงเติบโตได้ 30% ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มน้ำหนัก Non Oil ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน เนื่องจากภาคพลังงานจะต้องช่วยภาครัฐในการดูแลค่าครองชีพประชาชน
นายรังสรรค์ กล่าวว่า สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 68 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ชะลอการลงทุนด้านพลังงาน แต่ในส่วน Non Oil ยังคงเดินหน้าเต็มที่ ส่วนครึ่งปีหลังที่เหลือเชื่อว่าเศรษฐกิจคงไม่หดตัวไปมากกว่านี้ และจะทรงตัวในระดับนี้ ส่วนการลงทุนเปิดสถานีบริการใหม่ คงจะต้องดูความเหมาะสมในพื้นที่ โดยยังคงมุ่งเน้นการรีโนเวทสถานีบริการที่มีอยู่ เนื่องจากหลังการรีโนเวทส่วนใหญ่ยอดขายจะขยับดีขึ้น 20 ถึง 30%
ขณะที่ธุรกิจศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ครบวงจร ออโต้แบคส์ (Autobacs) ในช่วง 6 เดือนแรก ขยายเพิ่ม 5 สาขา แต่ในครึ่งปีจะขยายให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 สาขา โดย PTG ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ สร้างมูลค่ากระแสเงินสด ส่วนเรื่องโรงไฟฟ้าขยะน่าจะถึงเต็มกำลังการผลิตได้ในช่วงต้นปี 69
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณี บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนนี้รองบฯ ไตรมาส 3 ซึ่งไม่ได้ติดขัดปัญหาแต่อย่างใด
