บมจ. พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ รับมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอน CFO จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในพิธีมอบฉลากรับรองฯ เมื่อเร็วๆนี้ ในหมวดที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การได้รับฉลากคาร์บอนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ PSP ในการยกระดับมาตรฐานองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero และตอบโจทย์แนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความโปร่งใส และการรับผิดชอบต่อสังคม
นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP กล่าวว่า การได้รับฉลากคาร์บอน CFO หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นขององค์กรในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ PSP ในการเดินหน้าตามเป้าหมายความยั่งยืน โดยปัจจุบัน PSP ได้รับใบรับรองฉลากคาร์บอนในหมวด Carbon Footprint of Organization (CFO) ซึ่งแสดงถึงความสามารถของบริษัทในการวัดและรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) จากกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด นับเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ PSP ยังผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ISO 14064-1 สำหรับการวัดและรายงานปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยได้รับการตรวจประเมินจากสถาบัน MACSI ในปี 2567 ที่ผ่านมา
“เราเริ่มต้นจากการจัดเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรูปแบบของเอกสาร อย่างไรก็ตาม PSP กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการนำแพลตฟอร์มการจัดการเข้ามาช่วยวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้เห็นภาพรวมรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรได้ชัดเจนแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ดีขึ้น โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา PSP สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2.75% และตั้งเป้าหมายลดลงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ปีละ 5% ต่อเนื่องในระยะสั้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญในการกำหนดยุทธวิธีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้” นายเสกสรรกล่าว
สำหรับเป้าหมายระยะยาว PSP กำหนดพันธกิจสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2608 โดยมีแผนงานสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ความยั่งยืน อาทิ การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม การปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงที่ใช้ในระบบ Hot oil จากน้ำมันเตา C เป็นพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ เป็นต้น
“การที่ธุรกิจรู้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละกิจกรรมแล้ว จะสามารถกำหนดมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการดำเนินงานด้าน ESG ในประเด็นด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกและพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของกลยุทธ์องค์กร” นายเสกสรรกล่าวเพิ่มเติม
การได้รับฉลากคาร์บอน CFO ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของ PSP เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืน ตอบรับกับแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ ที่สำคัญคือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เนื่องจากการได้รับการรับรอง CFO จะเป็นแต้มต่อในการแข่งขันทางธุรกิจในระดับประเทศและระดับนานาชาติอีกด้วย