วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน 2568 18:58น.

“Plantnery by Pruksa” เปิดตัวนวัตกรรม INNO-TECH เสริมศักยภาพรับสร้างบ้านครบวงจร

18 มิถุนายน 2025

        Plantnery by Pruksa ธุรกิจรับสร้างบ้านในเครือพฤกษา โฮลดิ้ง ยกระดับการก่อสร้างบ้านด้วย INNO-TECH นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ชูเทคโนโลยี Inno-Precast จากเยอรมนี ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุคใหม่ด้วยบ้านที่แข็งแรง ทนแผ่นดินไหว ไม่ลามไฟ ไร้เสา-คาน และสร้างเสร็จไวใน 6 เดือน

        นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการรับสร้างบ้านภายใต้แบรนด์ Plantnery by Pruksa (แพลนท์เนอรี่ บาย พฤกษา) กล่าวว่า “เราเชื่อว่าบ้านที่ดีต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกสถานการณ์ Plantnery by Pruksa จึงได้ยกระดับมาตรฐานการสร้างบ้านให้ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี INNO-TECH นวัตกรรมเฉพาะของพฤกษาที่คิดค้นจากประสบการณ์การสร้างบ้านกว่า 200,000 หลัง โดยใช้เทคโนโลยี Inno-Precast คอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปคุณภาพสูงจากเยอรมนี ที่ผ่านการพัฒนากว่า 20 ปี เพื่อให้บ้านทุกหลังมีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่ง Plantnery by Pruksa เป็นรายแรกของไทยในธุรกิจรับสร้างบ้านที่ใช้เทคโนโลยีระดับโลกที่ล้ำสมัย

        จุดเด่นของ INNO-TECH ที่ทำให้แตกต่างจากการก่อสร้างแบบเดิม คือ ผนังคอนกรีตพรีคาสท์ที่แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้มาก ทำให้บ้านคงทนถาวร โดยมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดก่อนนำไปติดตั้งทุกครั้ง อีกทั้งยังทนต่อแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหว จากการศึกษาความสามารถในการรับแรงแผ่นดินไหวของระบบรอยต่อของบ้านผนังรับแรงสำเร็จรูป (Precast Concrete Bearing Wall) พบว่าผนังรับแรงพรีคาสท์สามารถรองรับแรงแผ่นดินไหวได้ดีเยี่ยม ไม่เกิดรอยร้าวเหมือนผนังก่ออิฐทั่วไป และยังมีคุณสมบัติป้องกันความร้อน ไม่ลามไฟ ต้านทานการซึมน้ำจึงหมดกังวลเรื่องเชื้อรา กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ไร้เสาและคานจึงเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและออกแบบตกแต่งง่ายขึ้น นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยของ INNO-TECH ยังช่วยลดเวลาในการขึ้นโครงสร้าง จึงทำให้สามารถสร้างบ้านเสร็จเร็วภายใน 6 เดือน

        นอกจาก INNO-TECH แล้ว บ้านที่สร้างโดย Plantnery by Pruksa ยังเสริมด้วย 5 นวัตกรรมเพื่อให้อยู่สบายและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Inno-Solutions ซึ่งประกอบด้วย (1) Active PureAir นวัตกรรมนำอากาศบริสุทธิ์เข้าบ้านพร้อมป้องกันฝุ่น PM2.5, (2) Health+ นวัตกรรมบ้านลดภูมิแพ้ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสมาชิกและสัตว์เลี้ยง, (3) FamilySafe นวัตกรรมที่ออกแบบเพื่อความปลอดภัยของเด็กและผู้สูงอายุ, (4) BioCool นวัตกรรมบ้านเย็นที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวกและประหยัดพลังงาน และ (5) SmartLiv นวัตกรรมบ้านอัจฉริยะที่ควบคุมอุปกรณ์ในบ้านได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ตโฟน ทำให้ชีวิตสะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น

       นายปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากรายงานสภาวะและแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2568  พบว่าปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะสร้างบ้านเองมากขึ้น เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าบ้านจัดสรร นอกจากนี้ การสร้างบ้านเองยังทำให้สามารถออกแบบและปรับฟังก์ชันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ดีกว่า ซึ่งแนวโน้มนี้ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

       “เราเชื่อว่าเทรนด์ที่ลูกค้าหันมาสร้างบ้านเองมากขึ้นนับเป็นโอกาสของ Plantnery by Pruksa ที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างในตลาด เรามีเป้าหมายที่จะสร้างบ้านทุกหลังภายใต้แนวคิด “Building Homes, Crafting Dreams, Made Possible สร้างบ้าน สร้างฝัน สร้างได้” เพื่อส่งมอบชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” และทำให้ลูกบ้านอยู่อาศัยได้จริงในทุกสภาพอากาศ”นายปิยะ กล่าว

        นอกจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว Plantnery by Pruksa ยังตอบโจทย์ทั้งความต้องการและงบประมาณ ด้วยแบบบ้านที่มีให้เลือกกว่า 100 แบบ และยังสามารถสร้างตามแบบของลูกค้า รวมทั้งปรับแต่งตามความต้องการได้ ในงบประมาณเริ่มต้นเพียง 5 ล้านบาท ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง งบไม่บานปลาย ไม่ทิ้งงาน และรับประกันโครงสร้างนานถึง 20 ปี พร้อมบริการแบบ One-Stop Service ตั้งแต่ปรึกษา ออกแบบ ขออนุญาต ไปจนถึงก่อสร้าง ภายใต้การควบคุมจากทีมช่างผู้มีประสบการณ์ตรง


คลิปวิดีโอ