‘แอลพีเอ็น’ เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย [5.85–6.00]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน หุ้นกู้มีหลักประกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.62 เท่าของยอดคงค้างของหุ้นกู้ โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งถือเป็นระดับ Investment Grade หรือเรียกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ โดยเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดว่าเสนอขายวันที่ 5-7 สิงหาคม 2568 นี้
นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เผยว่า LPN กลุ่มบริษัทผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความน่าอยู่ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 36 ปี เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยหุ้นกู้มีอายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย [5.85–6.00]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน (ทั้งนี้จะประกาศอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายอีกครั้ง) มีหลักประกันมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.62 เท่า ของยอดคงค้างของหุ้นกู้ ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินเปล่า และห้องชุดพาณิชยกรรม จังหวัดกรุงเทพมหานคร ชลบุรี เพชรบุรี นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
โดยในช่วง 3 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,413 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 20 ล้านบาท แม้จะลดลงจากปีก่อน แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ ณ ไตรมาส 1 ปี 2568 ยังมี Backlog รอรับรู้รายได้อีก 1,529 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในช่วงปี 2568-2569 อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัย และรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยคงเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 8,500 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 8,300 ล้านบาท สำหรับกลยุทธ์ในปี 2568 บริษัทฯ จะเน้นการระบาย Inventory ที่มีอยู่ ควบคู่ไปกับการสะสมที่ดินใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การออกหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน ซึ่งการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ของบริษัทฯ ไม่ได้ออกเสนอขายบ่อยนักในแต่ละปี ถือเป็นโอกาสในการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดี ในองค์กรที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ลงทุนได้ (Investment grade)”