
ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง โดยคาดว่า ภาพรวมตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.4% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า
ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทยจะมีมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านบาทในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 1.5 เท่า
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF คือ การขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายของจีนที่อนุญาตให้มีบุตรเพิ่ม ทั้งนี้ ในปี 2570 ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 3.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 14.2% ต่อปี
Krungthai COMPASS มองว่า ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ในไทยยังมีโอกาสเติบโตสอดคล้องกับเทรนด์ในต่างประเทศ ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายประเมินว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากไทยมีชื่อเสียงและคุณภาพการรักษาเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลในไทยถูกกว่าประเทศคู่แข่งและประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา โดยมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยาก หรือที่เรียกว่า Fertility Tourism โดยเฉพาะชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ทางการจีนได้ประกาศนโยบายส่งเสริมการมีบุตรคนที่ 3 ของกลุ่มคู่สมรสชาวจีนเมื่อ พ.ค. 2564 ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดที่จะแก้กฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญบางมาตราหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ภาวะมีบุตรยากเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งจะส่งผลให้คู่สามีภรรยาชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำการอุ้มบุญในไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาด IVF ในอนาคต
การเติบโตของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจบริการทางการแพทย์ของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก นอกจากนี้ ศักยภาพการเติบโตของธุรกิจยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจอื่น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม เนื่องจากการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ต้องใช้เวลาในการติดตามผลการรักษา ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากจำเป็นต้องพำนักในไทยในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วย











