อินฟอร์มา มาเก็ตส์ พร้อมตอกย้ำบทบาทประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านพลังงานสะอาดในระดับภูมิภาค ด้วยการจัดงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) เวทีระดับเอเชียที่พร้อมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจ สู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน ยกระดับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หนุนพลังงานหมุนเวียนในระบบ และผลักดันสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นจุดนัดพบของนวัตกรรมพลังงานสะอาด การแลกเปลี่ยนความรู้และภาคีเครือข่ายจากทั่วโลก เพื่อดันไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมพลังงานสะอาดของภูมิภาค
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและรับมือกับวิกฤตภูมิอากาศ งาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) จึงเป็นเวทีสำคัญระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงนวัตกรรม เทคโนโลยี และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทานธุรกิจพลังงาน
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ประเทศไทยกำลังเร่งขับเคลื่อนนโยบายพลังงานเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
กระทรวงพลังงานได้วางแผนยุทธศาสตร์พลังงานชาติ (NEP) ให้สอดรับกับแนวทางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และเศรษฐกิจหมุนเวียน BCG โดยเน้นการเร่งลงทุนในพลังงานหมุนเวียน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด งาน ASIA Sustainable Energy Week ถือเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยส่งเสริมเป้าหมายดังกล่าว และเป็นกลไกเชื่อมโยงความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษาทั้งในและต่างประเทศในทุกๆปี โดยภายในงาน กระทรวงฯ ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ เพื่อสื่อสารนโยบายด้านพลังงานที่สำคัญ พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับภาคเอกชนและประชาชน เรามั่นใจว่างานนี้จะเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของไทยสู่เวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรม
ศ.ดร.นวดล เหล่าศิริพจน์ ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในวันนี้ไม่ใช่แค่โจทย์เชิงเทคโนโลยี แต่คือโอกาสในการสร้างความรู้ นวัตกรรม และบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ในฐานะสถานศึกษาที่มุ่งเน้นด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ เราเห็นบทบาทสำคัญของงาน ASEW 2025 ที่ไม่เป็นเพียงงานนิทรรศการ แต่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพลังงานสะอาดอย่างรอบด้าน ทั้งจากภาควิชาการ อุตสาหกรรม และนโยบายสาธารณะ โดยปีนี้บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานฯ (JGSEE) ยังคงร่วมจัดประชุม Renewable Energy Asia Conference อย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดพื้นที่ถ่ายทอดผลงานวิจัยและวิชาการด้านพลังงานหมุนเวียน ที่ครอบคลุมประเด็นหลากหลายตั้งแต่ ไฮโดรเจน พลังงานไฟฟ้าสะอาด การลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม ขนส่ง และอาคารสีเขียว ไปจนถึงวัสดุก่อสร้างแห่งอนาคต พร้อมทั้งจัดบูธนิทรรศการเพื่อเชื่อมโยงสู่การใช้จริง เราเชื่อว่าการบูรณาการองค์ความรู้กับภาคอุตสาหกรรมจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการงานจัดแสดงสินค้า และกิจกรรมเจรจาธุรกิจระดับภูมิภาค เราไม่ได้มองเพียงมิติของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน กับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้งาน ASIA Sustainable Energy Week (ASEW) เป็นมากกว่างานแสดงสินค้า แต่เป็นแพลตฟอร์มระดับภูมิภาค ที่รวมองค์ความรู้ เทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจไว้ในเวทีเดียว มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้แนวคิด “Empowering Digital Transformation in Sustainable Energy Towards Net Zero” โดยมีจุดแข็งจากความหลากหลายของผู้แสดงสินค้า ครอบคลุมทั้งด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงาน และระบบกักเก็บพลังงาน จากกว่า 1,500 แบรนด์พลังงานชั้นนำ อาทิ ABB, ANTAI SOLAR, ANDSOLAR, ATESS, BYD, DELTA, HITACHI ENERGY, HUAWEI และ SUNHOME รวมถึงพาวิเลียนนานาชาติอย่าง จีน ฟินแลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร พร้อมสัมมนาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกกว่า 200 หัวข้อ เช่น REA Conference, Thailand ConneXt, ASIA Urban Energy Assembly, International Energy Storage Forum, Hydrogen Forum, SEA SAF Forum เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมไฮไลท์ที่ตอบโจทย์ผู้ชมงานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโซน Data Center and Cloud District, Hydrogen District, Startups Alley, Carbon Free Valley และ InnoTech Stage ปีนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 32,000 คน และเราเชื่อมั่นว่างาน ASEW จะเป็นศูนย์กลางในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระบบนิเวศพลังงานสะอาดของเอเชีย พร้อมกันนี้ยังจัดร่วมกับงาน MobilityTech Asia – Bangkok (MTAB) 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมชั้นนำของภูมิภาค ด้านการขนส่งแห่งอนาคตและยานยนต์อัจฉริยะ ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้านพลังงานยั่งยืนและเทคโนโลยีแห่งอนาคตของเอเชียอย่างแท้จริง