วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน 2568 19:03น.

บลจ.อีสท์สปริง มองโอกาสลงทุนหุ้นอินเดียระยะยาว เปิดตัวกองทุน RMF น้องใหม่ “ES-INDAERMF” ขาย 4-10 พ.ย. 68 นี้

4 พฤศจิกายน 2025

        บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน RMF ลดหย่อนภาษีน้องใหม่ “ES-INDAERMF”กองทุนหลักเน้น ลงทุนหุ้นอินเดียทั้งขนาดเล็กกลางและใหญ่ มองโอกาสระยะยาวรับปัจจัยสนับสนุนหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงการเมืองมีเสถียรภาพและรัฐบาลมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจเป็นรูปธรรม พร้อมคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดี เสนอขาย 4-10 พ.ย. 68 นี้

         นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริงมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียระยะยาว หนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจากจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกและมีวัยแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยผลักดันการบริโภคให้สูงขึ้น นอกจากนั้น การเมืองยังมีเสถียรภาพและรัฐบาลมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจเป็นรูปธรรม เช่น กำหนดโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต Digital India ฯลฯ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิต โครงสร้างพื้นฐานและบรรยากาศการทำธุรกิจ โดยคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดีจากคาดการณ์ EPS Growth ของ SENSEX Index ที่เติบโตราว 16% ในปี 2569 (ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2568) ตลาดหุ้นอินเดียจึงเป็นฟระยะกลาง-ยาวผ่าน RMF ด้วยคุณลักษณะและการเคลื่อนไหวของหุ้นอินเดีย ที่เน้นเติบโตแบบมั่นคง พร้อมทั้งมีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) กับตลาดอื่นๆที่ต่ำ ทำให้เหมาะกับการกระจายความเสี่ยง และสามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกัน

        ดังนั้นบลจ.อีสท์สปริง จึงได้จัดตั้งกองทุนเปิดอีสท์สปริง India Active Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-INDAERMF) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2568 ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Goldman Sachs India Equity Portfolio  หน่วยลงทุนชนิด Class I Shares (Acc.) บริหารจัดการโดย Goldman Sachs Asset Management B.V. อัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

        โดยกองทุนหลัก Goldman Sachs India Equity Portfolio มีกลยุทธ์ในการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up เพื่อเฟ้นหาบริษัทที่มีคุณภาพดี มีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาวและมีระดับมูลค่าที่น่าสนใจ โดยกองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหาร ผู้จัดการกองทุนหลักสามารถลงทุนหุ้นได้ทุกขนาด แต่ค่อนข้างมีความโดดเด่นในการคัดเลือกหุ้นขนาดกลาง-เล็ก บริหารจัดการโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์บริหารกองทุนตั้งแต่ปี 2007 และมีความเชี่ยวชาญในตลาดหุ้นอินเดียมีการทำวิจัยและเยี่ยมชมบริษัทกว่า 1,000 บริษัทต่อปี โดยกองทุนหลักได้รับ Morningstar Rating 4 ดาว (ที่มา: Morningstar Direct ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568)

        พอร์ตกองทุนหลัก Goldman Sachs India Equity Portfolio มีสัดส่วนการลงทุนรายอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 1. Financials 29%, 2. Consumer Discretionary 20%, 3. Information Technology 10% ,4. Health Care 9%

         5.Materials 9%, 6. Industrial 8%, 7. Communication Services 4% ,8. Consumer Staples 4% และ 9. Others 7% โดยหลักทรัพย์ที่มีการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ICICI Bank ธนาคารใหญ่อันดับต้นๆของอินเดียในแง่สินทรัพย์และมีสาขากว่า 19 ประเทศ 5.8% 2. Infosys ผู้นำด้านบริการที่ปรึกษาและความเชี่ยวชาญในบรรดาบริษัทบริการด้านไอทีของอินเดีย 3.8% 3. HDFC Bank หนึ่งในธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ของอินเดีย ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินครบวงจร ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ 3.7% 4. Reliance Industries บริษัทขนาดใหญ่ของอินเดียที่มีธุรกิจอยู่ในหลายอุตสาหกรรมทั้งธุรกิจปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและก๊าซ โทรคมนาคม ค้าปลีก มีเดีย 2.9% และ 5. Mahindra & Mahindra Ltd บริษัทสัญชาติอินเดียที่ดำเนินการในหลายธุรกิจ เช่น รถยนต์ การเกษตร ไอที การเงิน (ที่มา: Goldman Sachs Asset Management ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) พิเศษสุดเมื่อลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีทุกกองทุนครบทุกๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดอีสท์สปริงบริหารเงิน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่ 2 ม.ค.-30 ธ.ค. 2568 ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

 


คลิปวิดีโอ