วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม 2568 05:43น.

COTTO พลิกบทบาท ขยายตลาดเดินเกมรุกอุตสาหกรรม “วัสดุตกแต่ง” เจาะกลุ่มนักออกแบบยุคใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “Reimagine Living Refinement”

30 เมษายน 2025

        ในยุคที่ ‘นักออกแบบ’ และ ‘ผู้บริโภค’ ต่างก็ให้ความสำคัญกับการเลือก “วัสดุตกแต่ง” อย่างชาญฉลาด “COTTO” จึงพลิกบทบาทจากผู้นำตลาดกระเบื้องและสุขภัณฑ์ ขยายพอร์ตเดินเกมรุกบุกตลาด “วัสดุตกแต่ง” แห่งโลกอนาคตแบบครบครัน

       จาก ‘บทบาทเดิม’ ผู้นำแบรนด์กระเบื้องและสุขภัณฑ์ชั้นนำของโลกที่ครองใจคนไทยมาตลอด 40 ปี “COTTO” ในเครือ SCG Decor ยังคงตอกย้ำความสำเร็จ มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและเทคโนโลยีควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับ ‘บทบาทใหม่’ ในฐานะผู้ผลิตและพัฒนา “วัสดุตกแต่ง” ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งที่ผลักดันมุมอุตสาหกรรมรักษ์โลก ที่น่าจับตา เพราะนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพ และมาตรฐานที่ได้รับรางวัลการันตีมากมายทั้งไทย และเทศแล้ว ยังโดดเด่นด้านการผลิต ความพิถีพิถันในการใช้นวัตกรรมต่างๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ การใช้ ‘น้ำดินสูตรพิเศษ’ (Qrystalite) ในการผลิตสินค้าอ่างล้างหน้า QUINTA Basin – Quil Collection By COTTO หรือ นวัตกรรมแผ่นดินเหนียว Clay Décor ฯลฯ นับเป็นการเติมเต็มมุมมองการออกแบบใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่หลากหลาย และยกระดับการอยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน

        นายขจรศักดิ์ เปี่ยมบุญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO เผยว่า “ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยหยุดพัฒนาโปรดักส์ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากอดีตกลุ่มคนสร้างบ้านยุคก่อน สู่การสร้างใหม่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนมีทางเลือก และฉลาดเลือกมากขึ้น ‘บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน’  COTTO จึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้า ‘วัสดุตกแต่ง’ เพื่อเติบโตไปพร้อมกับความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค และเชื่อมโยงมุมมองมิติใหม่ๆ ให้กับกลุ่มนักออกแบบ ไปจนถึงการพัฒนาสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติผ่านรูปแบบนวัตกรรมต่างๆ โดยเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มเจ้าของบ้านยุคใหม่ และนักออกแบบกลุ่ม Young Gen”

       จึงเป็นที่มาของการจัดแสดงสินค้าภายใต้คอนเซปต์ “Reimagine Living Refinement” เพื่อเปิดมุมมองให้กลุ่มนักออกแบบ และผู้บริโภคยุคใหม่ได้สัมผัสความพิเศษของไลน์โปรดักส์ใหม่ๆ โดยแบ่งเป็นกลุ่ม Highlight Products  อาทิ INTEGRATED SINK WORKTOP โดย WORKTOP SURFACES by COTTO ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ COTTO ในรูปแบบเคาน์เตอร์พร้อมหลุมอ่างล้างหน้าในตัวสามารถปรับรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้ และ QUIL COLLECTION By COTTO กลุ่มสินค้าสำหรับห้องน้ำระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยีวัสดุที่มีความละเอียดทางผิวสัมผัส และตอบโจทย์งานออกแบบสมัยใหม่ โดยสินค้ากลุ่มนี้จะจัดแสดง ในงานสถาปนิก’68 ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

       และอีกหนึ่งกลุ่มได้แก่ New Products ซึ่งจัดขึ้นที่ COTTO LiFE ดอนเมือง ประกอบด้วย COTTO BATHROOM พลิกโฉมประสบการณ์ใช้ห้องน้ำยุคใหม่ พร้อมด้วยหลากหลายโมเดลกลุ่ม Smart Edition อาทิ กลุ่มสุขภัณฑ์ KLIRR COLLECTION Smart Edition ด้วยนวัตกรรมระบบชำระด้วยเทคโนโลยีแรงดันอากาศ Hydro KEEN Flushing System และ Refrigerator Mirror ชุดกระจกเงาพร้อมตู้แช่เครื่องสำอางค์ และอีกหนึ่งกลุ่มสำคัญอย่าง

       COTTO THE SURFACE ซึ่งออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับการใช้งานในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ FlowelPureTECH วัสดุปิดผิวนวัตกรรมญี่ปุ่น ช่วยดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์, ดูดซับสารระเหยอันตรายได้ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลอากาศในบ้าน เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยในทุกๆ วัน รวมถึงการเปิดตัวครั้งแรก! กับ COTTO WINDOW AND DOOR สินค้าประตูหน้าต่างกลุ่มแรกทำจาก Aluminum มีความทนทานและโดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะตัว ผสานเข้ากับพื้นที่แบบ mixed-use ได้อย่างกลมกลืน

       นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า “อีกหนึ่งจุดแข็งความเชี่ยวชาญของ COTTO คือการเป็นผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายในประเทศไทยที่ควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตด้วยตนเอง ตั้งแต่การค้นคว้าวัสดุทางเลือก ไปจนถึงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพื่อมอบทางเลือกสร้างสรรค์ให้กับนักออกแบบ พร้อมลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยในกระบวนการผลิตของเราได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากวัสดุชีวมวล เช่น กาบมะพร้าว เปลือกข้าวโพด แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันสินค้า COTTO ที่ผลิตจากโรงงานทุกชิ้นมีการระบุ Carbon Footprint of Products (CFP) อย่างชัดเจน และในอนาคตบริษัทยังมีแผนพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถยื่นขอฉลาก Carbon Reduction of Products (CRP) แสดงถึงการพัฒนาอีกขั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าปริมาณการปล่อยคาร์บอนลดลงจากกระบวนการเดิมอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างกลุ่มสินค้าที่ได้รับฉลาก CRP แล้ว อาทิ Mosaic & Exterior Tiles เป็นต้น” 

       นอกจากนี้ COTTO ยังให้ความสำคัญกับมิติด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคไม่แพ้ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG จะเห็นได้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญต่อการเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวัสดุปิดผิวทางเลือกใหม่ อย่าง Clay Decor หรือ Stone Decor ที่มีคุณสมบัติบางเบา เหมาะกับการติดตั้งบนผนัง และช่วยลดความเสี่ยงจากการตกหล่นหรือแรงกระแทกที่อาจก่อให้เกิดอันตรายจนนำไปสู่การบาดเจ็บได้

       “และแม้ว่าในปี 2568 ไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายและโอกาส แต่โดยภาพรวมคาดว่าจะกลับมาทยอยฟื้นตัวได้ดี* ซึ่ง COTTO ยังคงมั่นใจว่าไม่กระทบการเติบโตทั้งในด้านกำลังการผลิตและยอดจำหน่ายทั้งในประเทศ ตลอดจนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ พร้อมวางกลยุทธ์ ด้วยการปรับทิศทางของ แบรนด์ที่เป็นมากกว่าการกระเบื้อง-สุขภัณฑ์ แต่คือการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สู่ไลน์การผลิต “วัสดุตกแต่ง” แห่งโลกอนาคต  เพื่อเชื่อมต่อไอเดียกับกลุ่มนักออกแบบรุ่นใหม่ สร้างสมดุลระหว่างความงามของดีไซน์ ฟังก์ชัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขยายตลาด รวมถึงการผลักดัน Ecosystem ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับแบรนด์ COTTO ให้แข็งแกร่งในฐานะผู้นำวัสดุตกแต่งครบวงจรแห่งอนาคตต่อไป” นายขจรศักดิ์ กล่าวสรุป


คลิปวิดีโอ