‘บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี’ ยกทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 เดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ หลังเพิ่มจำนวนประเทศที่จำหน่ายสินค้าจาก 12 ประเทศเป็น 21 ประเทศ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ ข้าวตังรสผัดไทย ปลาแท่งทรัฟเฟิล และแครกเกอร์เบอร์รีอัลมอนด์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Better-for-you Snack ตั้งเป้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 15 รายการในปีนี้ มุ่งเติบโตสู่ตลาดโลก
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยกทัพนวัตกรรมสินค้าเข้าร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าการค้าและการลงทุนระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ณ บูธหมายเลข BB45, Challenger Hall 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2568 สำหรับการเข้าร่วมงาน THAIFEX ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมา CHAO ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดสากล จากการเพิ่มจำนวนประเทศที่จัดจำหน่ายสินค้าได้อย่างรวดเร็วจาก 12 ประเทศ ณ สิ้นปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 21 ประเทศ ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งในตลาด และมองหาโอกาสในการขยายสู่ตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมถึงกลุ่มประเทศฮาลาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เจ้าสัวพร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมงานจากทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง (Continuously launching NPDs) และขยายการรับรู้ในฐานะผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวที่เน้นแนวคิด “Better-for-you Snack” ในเวทีระดับนานาชาติ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เจ้าสัวคัดสรรมานำเสนอในงาน THAIFEX 2025 ครั้งนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยยึดมั่นใน “สูตรลับตำรับเจ้าสัว” ซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เพื่อสร้างสรรค์รสชาติที่อร่อยพร้อมคุณประโยชน์ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวและให้ผู้สนใจได้ลิ้มลองประกอบด้วย 1) กลุ่มข้าวตัง (Rice Cracker) เตรียมนำเสนอ ‘ข้าวตังผัดไทยกุ้ง’ เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านรสชาติใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค โดยขนมกลุ่มข้าวตังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึงประมาณ 14.4% CAGR จนถึงปี 2570 การนำเสนอรสชาติใหม่ๆ เป็นการตอกย้ำ นวัตกรรมด้านรสชาติ (Crafting New Flavors) เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม
2)กลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ (Meat Snack) ภายในงานจะเปิดตัว ‘ปลาแท่งทรัฟเฟิล’ ที่เน้นคุณสมบัติเด่นด้านโปรตีนสูง ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพที่กำลังเติบโต การพัฒนาขนมจากเนื้อปลา และเนื้อไก่ยังสอดคล้องกับการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Better-for-you รวมถึงการขยายพอร์ตโฟลิโอไปสู่การแปรรูปเนื้อสัตว์อื่นๆ เพื่อสร้างความหลากหลาย และ 3) แครกเกอร์ธัญพืช (Cereal Cracker) โดยครั้งนี้เจ้าสัวได้เปิดตัว ‘แครกเกอร์เบอร์รีอัลมอนด์’ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญด้านสุขภาพ และการผสมผสานรวมความอร่อย
ทั้งนี้ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายและเน้นคุณประโยชน์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเจ้าสัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง (Product Innovation & Dynamic Product Launch) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ บุกเบิกหมวดหมู่ใหม่ๆ (Pioneering New Categories) ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนา รูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Format) เช่น ข้าวตังขนาดเล็ก (Mini Size) เพื่อแก้ไข Pain-point ของชิ้นใหญ่และขยายฐานผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เจ้าสัวตั้งเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (SKUs) มากกว่า 15 รายการในปี 2568 ซึ่งการเปิดตัวในงาน THAIFEX ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำนวัตกรรมสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ “เจ้าสัว” ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์ขนมขบเคี้ยวชั้นนำของประเทศไทย โดยล่าสุดได้รับรางวัล Thailand Most Admired Brand 2025 ในหมวดขนมขบเคี้ยวไทย โดยอาศัยผลสำรวจผู้บริโภคทั่วประเทศ ด้วยตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่ม Rice Crackers ด้วยส่วนแบ่ง 79% และ Meat Snack ที่ 62% ในประเทศไทย CHAO มุ่งมั่นที่จะยกระดับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไปสู่ระดับสากล โดยมีทิศทางสำคัญคือการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Better-for-you เพื่อตอบสนองความต้องการและเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การเข้าร่วมงาน THAIFEX ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญของเจ้าสัวในการแสดงศักยภาพและผลักดันการเติบโตในตลาดโลกต่อไป
“เจ้าสัวมีความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ขนมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิต การควบคุมคุณภาพ และการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมขนมไทยมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ Better-for-you ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวณภัทร กล่าว
