วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม 2568 02:54น.

AWC ผนึกกรุงไทยลงนามสินเชื่อ Green Loan มูลค่า 7,904 ลบ.

30 มิถุนายน 2025

        บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ลงนามในสัญญาสินเชื่อระยะยาวประเภท Green Loan มูลค่า 7,904 ล้านบาท (เทียบเท่า 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันด้านความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก โดยความร่วมมือด้านสินเชื่อ Green Loan ครั้งสำคัญนี้จะใช้ในการพัฒนาโครงการแฟลกชิปอัลตร้าลักชัวรีแบรนด์ระดับโลก ‘โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก’ (Hotel Plaza Athénée Nobu New York) ณ มหานครนิวยอร์ก ซึ่งนับเป็นตลาดที่มีเสถียรภาพและศักยภาพสูง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตการลงทุนควบคู่กับ ‘เดอะ โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ แบงคอก’ มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรีของแบรนด์ Plaza Athénée ที่จะเชื่อมสองมหานครจากนิวยอร์กสู่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อความพิเศษและศักยภาพของการท่องเที่ยวยั่งยืนของไทยสู่เวทีโลก

        โครงการ “โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก” ได้รับการพัฒนาในอาคารประวัติศาสตร์อายุกว่าศตวรรษ ใจกลางย่าน Upper East Side หนึ่งในทำเลศักยภาพสูงสุดของมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ความหรูหรา และไลฟ์สไตล์ระดับโลก โครงการการลงทุนบนทำเลพิเศษที่เป็นทรัพย์สิน Freehold นี้จะพัฒนาเพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวที่ยั่งยืนด้วยมาตรฐานอาคารสีเขียวระดับสากล โดยมุ่งผสานการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมเข้ากับนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การลงทุนและพัฒนาโครงการนี้อยู่ภายใต้โมเดล AWC Growth Fund ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนของ AWC ที่ช่วยให้สามารถพัฒนาโครงการได้โดยไม่ต้องลงทุนเต็มจำนวนในระยะเริ่มต้น และไม่เกิดภาระหนี้สินจากการพัฒนาต่อ นับเป็นความยืดหยุ่นในการเข้าถือครองกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยการเข้าถือครองกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยให้สามารถรับรู้รายได้ทันที สร้างกระแสเงินสดเป็นบวก และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน พร้อมรักษาวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท สะท้อนด้วยโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม

        นายสุรธันว์ คงทน ประธานผู้บริหารสายงาน Wholesale Banking ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมนำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ข้อ 13 เรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาปรับใช้  ทั้งในมิติการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ให้กับบริษัทในกลุ่ม AWC เพื่อลงทุนบูรณะ ‘โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก’ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในนครนิวยอร์ก โดยกำหนดตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน เป็นกรอบในการพัฒนาโครงการให้เป็นโรงแรมสีเขียว (Green Building) ตามมาตรฐาน Leadership in Energy and Environmental Design (LEED ) หรือมาตรฐานอาคารสีเขียวระดับสากลอื่นๆ  โดยเชื่อมั่นว่า โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ผสานความหรูหราเข้ากับหลัก ESG ได้อย่างกลมกลืนและเป็นรูปธรรม ความร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงบทบาทของธนาคารกรุงไทยในฐานะพันธมิตรทางการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financial Partner) ที่พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่การเติบโตอย่างสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”

         นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC ขอขอบคุณธนาคารกรุงไทยสำหรับความเชื่อมั่นและการสนับสนุน การพัฒนาโครงการแฟลกชิปอัลตร้าลักชัวรีแบรนด์ระดับโลก ‘โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก’ (Hotel Plaza Athénée Nobu New York) โดยนับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่เชื่อมศักยภาพของการท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก และร่วมสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในผู้นำการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก นอกจากนั้น การให้สินเชื่อ Green Loan ในครั้งนี้ได้ส่งเสริมกลยุทธ์ของ AWC ภายใต้โมเดลการลงทุน AWC Growth Fund ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน  และมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง”

         “โครงการ ‘โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ นิวยอร์ก’ เป็นความร่วมมือระหว่าง AWC และ Nobu Hospitality ที่ผสานจุดแข็งของแบรนด์โรงแรมระดับตำนาน Plaza Athénée เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับลักชัวรีของ Nobu เพื่อพัฒนา Lifestyle Destination ที่มีเอกลักษณ์และมาตรฐานระดับโลก โดยตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์อายุกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นทรัพย์สิน Freehold ในย่าน Upper East Side ของแมนฮัตตัน ใกล้ Central Park และแหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์ โดยมีแผนยื่นขอการรับรองมาตรฐาน LEED หรือมาตรฐานอาคารสีเขียวระดับสากลอื่นๆ เพื่อยืนยันถึงคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ AWC ในด้าน ‘Better Planet’ ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ทันสมัยและยั่งยืน และจะพัฒนาไปพร้อมกับ ‘เดอะ โฮเทล พลาซ่า แอทธินี โนบุ แบงคอก’ เชื่อมประสบการณ์อัลตร้าลักชัวรีจากนิวยอร์กสู่กรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว พร้อมเปิดบริการในปีหน้า”

         การพัฒนาโครงการด้วยมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากลเป็นหัวใจหลักในการสร้างโครงการคุณภาพของ AWC โดยล่าสุดโครงการ ‘อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล’ ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED ระดับ Gold เวอร์ชั่น 4 BD+C : Hospitality สำหรับโรงแรมเป็นแห่งแรกของไทย สะท้อนถึงแนวทางการออกแบบและการดำเนินงานที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน โรงแรม INNSiDE by Meliá Bangkok Sukhumvit ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE (Excellence in Design for Greater Efficiencies) มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก International Finance Corporation แห่งกลุ่มธนาคารโลก ซึ่งสะท้อนถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และขณะนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นๆ ของ AWC อีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างกระบวนการขอรับรองมาตรฐาน LEED และมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากลอื่นๆ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืนครอบคลุมทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอ

         AWC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืนทุกมิติ โดยผู้บริหารและทีมงานได้ร่วมภาคภูมิใจที่ AWC ได้รับคะแนนความยั่งยืนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ จากการจัดอันดับของ S&P Global รวมถึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ และ FTSE4Good Index Series นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ในปี 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ AWC ในการสร้างคุณค่าองค์รวมระยะยาวให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

         “ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสององค์กรในครั้งนี้ เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวผ่านโครงการคุณภาพระดับโลกที่ผสานมาตรฐานความยั่งยืนไว้ในทุกมิติ นับเป็นพลังความร่วมมือในการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในผู้นำการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก และร่วม ‘Building Better Future For All’ เพื่อคุณค่าองค์รวมที่ยั่งยืน” นางวัลลภา กล่าวสรุป


คลิปวิดีโอ