วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม 2568 16:04น.

ส่องทิศทางธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ตอบรับข่าวดีเปิดประเทศ ส่งสัญญาณบวกต่อไปในปี 2566

30 สิงหาคม 2022

        ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนจะฟื้นตัวชัดเจนในปี 2565 และยังเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว ทั้งนี้ คาดว่า ภาพรวมรายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปี 2565 จะขยายตัว 42.5%YoY ต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากปัจจัยชั่วคราวจากการรับรักษาคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 และความต้องการรักษาโรคที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศที่ทำให้รายได้จากคนไข้ต่างชาติทยอยฟื้นตัว

        ปี 2566 คาดว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ และสนับสนุน Medical Tourism Trend จึงคาดว่าจะส่งผลให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนสามารถขยายตัวต่อเนื่องที่ 19.8%YoY

        ในอนาคต Health Tech ที่เป็นตัวช่วย อาจกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของธุรกิจที่น่าจับตามอง ดังนั้น การปรับโมเดลธุรกิจโดยสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย จะช่วยสร้างโอกาสในการขยายบริการทางการแพทย์ให้ครอบคลุมขึ้น

        ภาพรวมรายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปี 2565 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากปัจจัยชั่วคราวจากการรับรักษาคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 และความต้องการรักษาโรคที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศที่ทำให้รายได้จากคนไข้ต่างชาติทยอยฟื้นตัว

        ภาพรวมรายได้ของโรงพยาบาลเอกชน ปี 2565 มีโอกาสขยายตัว 42.5%YoY โดยกลุ่มลูกค้าหลักที่มาใช้บริการในปี 2565 ยังเป็นกลุ่มคนไข้ชาวไทย และคาดว่าในปี 2566 ธุรกิจจะขยายตัวต่อเนื่อง 19.8%YoY จากปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวที่เด่นชัดขึ้นของ Medical Tourism

         ภาพรวมธุรกิจ: ในปี 2565 คาดว่า ธุรกิจจะขยายตัวต่อเนื่อง 42.5%YoY หลังจากในปี 2564 ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้ 32.3%YoY เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากปัจจัยชั่วคราวจากการรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และความต้องการรักษาโรคที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าหลักที่มาใช้บริการในปี 2565 ยังเป็นกลุ่มคนไข้ชาวไทย ซึ่งกลุ่มลูกค้าประกันสุขภาพนับว่ามีศักยภาพที่จะช่วยหนุนรายได้ของโรงพยาบาลเอกชน อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 และการเปิดประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ส่งผลดีต่อรายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่มีสัดส่วนคนไข้ต่างชาติสูงอย่างโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) สมิติเวช (SVH) และกลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในไทยในปี 2565 อยู่ที่ราว 8.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ในช่วงครึ่งแรกของปี และในจำนวนนี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนของกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่ต้องการเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในไทยค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ

        สำหรับปี 2566 คาดว่าสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศสะดวกขึ้น ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนสามารถขยายตัวต่อเนื่อง 19.8%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวที่เด่นชัดขึ้นของ Medical Tourism โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไข้ชาวต่างชาติ จากอาเซียน จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง จะยังคงกลับมาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในไทย เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพการรักษา ค่ารักษาพยาบาลและค่าครองชีพไม่สูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน อีกทั้งมีมาตรฐานและบริการที่ดี ซึ่งประเทศไทยมีสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI มากถึง 59 แห่ง ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนสำคัญตามโครงสร้างพื้นฐานเดิมยังส่งผลอยู่ คือ ความต้องการการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนคนไข้และอัตราการเจ็บป่วยที่สูงขึ้น ทั้งจากวิถีการดำเนินชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค สังคมผู้สูงอายุ และการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ที่รุนแรงขึ้น


คลิปวิดีโอ