วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568 19:22น.

MEDEZE ฟันกำไร 9 เดือน ปี 68 เฉียด 160 ลบ.

12 พฤศจิกายน 2025

         “เมดีซ กรุ๊ป” ทำกำไรสุทธิ 9 เดือน ปี 68 ที่ 159.95 ลบ. กวาดรายได้รวม 587.99 ลบ. เซลล์ต้นกําเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ ยังเป็นรายได้หลัก ย้ำนับหนึ่ง “ATMPs Sandbox” หนุนความหวังในการรักษาโรค สร้างผลประโยชน์โดยรวมกว่า 2.6 แสนล้านบาท

          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 181.27 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.54 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการรวม 9 เดือนของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 587.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 159.95 ล้านบาท โดยรายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากเซลล์ต้นกําเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ Cord Tissue โดยมีสัดส่วนรายได้ในไตรมาส 3 และ 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 43% และ 49% ตามลำดับ

          โดยที่ผ่านมา บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในอาคารฝ่ายขาย และการตลาด อาคารคลังสินค้าแห่งใหม่ ระบบพลังงานไฟฟ้า Solar Cell และระบบ MEDEZE Plus Auto Matching Software เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงการประชาสัมพันธ์โครงการ “ATMPs Sandbox” อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับการรับรองระบบ GMP และมาตรฐานธนาคารเซลล์ ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ และเกิดประโยชน์กับประเทศไทย เพื่อเป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่ลูกค้ารวมถึงประชาชนทั่วไป

          ในขณะที่โครงการ ATMPs Sandbox หรือโครงการวิจัยทดลองนำร่อง ATMPs หรือ Advanced Therapy Medicinal Products อาทิ สเต็มเซลล์ โดยมีการอนุมัติผลิตภัณฑ์ ATMPs 2 รายการให้สถานพยาบาล เป้าหมายได้รับการอนุมัติให้ทดลองใช้ ATMPs อย่างน้อย 5 แห่ง คนไทยเข้าถึงยา ATMPs ได้ในประเทศ ผ่านกลไกการอนุญาตวิจัยยา ในปี 2568 และจัดตั้งสถานพยาบาลทดลองภาครัฐที่พร้อมให้บริการ คือ ศูนย์การแพทย์บางรักบางรัก กรมควบคุมโรค และ รพ.วชิระภูเก็ต ซึ่งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท โดย MEDEZE จะเข้ามาร่วมสนับสนุนห้องปฏิบัติการ สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ และทุนวิจัย ซึ่งการวิจัยทั้งหมดต้องผ่านการอนุมัติจาก คณะกรรมการจริยธรรม ก่อนเริ่มดำเนินการ

          โครงการวิจัยทดลองนำร่องนี้มุ่งเน้นกลุ่มโรคเริ่มต้นที่สำคัญ 3 กลุ่ม ได้แก่โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม โรคไขสันหลังเสื่อม ใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันของผู้ป่วยเอง สร้างการฟื้นฟูเนื้อเยื่อของหมอนรองกระดูก ลดการเสื่อม และลดอาการปวดเรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัด โรคผิวหนัง ความแก่ การฟื้นฟูผิว ใช้ autologous adipose-derived stem cells เพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ ใช้แนวทาง ภูมิคุ้มกันบำบัด โดยเฉพาะ NK cells เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับมะเร็งลำไส้ใหญ่

         ซึ่งหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ประกาศส่งเสริมการพัฒนาการแพทย์มูลค่าสูง อาทิ สเต็มเซลล์, การบำบัดด้วยยีนและเนื้อเยื่อที่ผ่านการดัดแปลง และเป็นหนึ่งในนโยบายที่ต้องการขับเคลื่อนพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Wellness & Medical Hub ที่คาดว่าจะเกิดผลประโยชน์โดยรวมประมาณ 266,708 ล้านบาท


คลิปวิดีโอ