
บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำสัปดาห์นี้ผันผวนหนัก นักลงทุนลดถือครองรับข่าวดีสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเริ่มคลี่คลาย จับตาเฟดประชุมสัปดาห์นี้อาจเกิดแรงขายในลักษณะ “Sell on Fact” นักลงทุนยังเก็งกำไรอย่างระมัดระวังในกรอบ 3,850–4,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ มีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน จากแรงกดดันของนักลงทุนที่เริ่มคลายความกังวลต่อสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน หลังมีรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า รองนายกรัฐมนตรีของจีน จะเข้าร่วมการเจรจาการค้ารอบใหม่กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในระหว่างวันที่ 24-27 ต.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้โฆษกทำเนียบขาวเผยเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและอินเดียมีแนวโน้มใกล้บรรลุผล ซึ่งอาจลดภาษีสินค้าส่งออกจากอินเดียลงจาก 50% เหลือเพียง 15–16% ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสถานการณ์ชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจสิ้นสุดลงภายในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ รวมถึงความไม่แน่นอนจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ โดยสถานการณ์ในฉนวนกาซากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 46 ราย แม้ทั้งสองฝ่ายจะอยู่ในระหว่างข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขู่ว่าจะทำลายล้างกลุ่มฮามาส หากมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
“แผนการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ได้ถูกยกเลิกแล้ว โดยผู้นำสหรัฐให้เหตุผลว่า ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาทางการทูต และช่วงเวลายังไม่เอื้อต่อการประชุมดังกล่าว ส่งผลให้รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีใส่ยูเครนระลอกใหม่ด้วยโดรนและขีปนาวุธในวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้พลเรือนในกรุงเคียฟเสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการสร้างสันติภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงคว้าน้ำเหลว”
ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด แม้ตลาดจะตอบรับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่อาจเกิดแรงขายในลักษณะ “Sell on Fact” ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้ง โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่ระดับ 3,850–4,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนะนำให้พิจารณาขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น











