วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม 2568 16:01น.

“กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์” ประกาศจุดยืนธุรกิจสร้างบ้าน ‘แพงไม่แพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพและสิ่งลูกค้าได้รับ’ ชี้สงครามราคาทำลายความเสียหายทั้งต่อตัวลูกค้าและบริษัท

9 ตุลาคม 2025

         ท่ามกลางกระแส “สงครามราคา” ในธุรกิจรับสร้างบ้านที่ร้อนแรงขึ้นทุกปี กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ยังคงยืนหยัดในแนวทาง “บ้านคุณภาพไม่ใช่ว่าใครจะสร้างได้” ไม่ลดสเปก-ไม่ลดมาตรฐาน พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นด้วยมาตรฐานการก่อสร้างที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และการออกแบบที่ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชัน โดยมองว่าธุรกิจรับสร้างบ้านในอีก 3–5 ปี และในอนาคตข้างหน้ายังมี “ดีมานด์จริง” อยู่ต่อเนื่อง แต่ผู้เล่นจะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อมีระบบบริหารคุณภาพที่แข็งแรงและสามารถปรับตัวสู่ยุคเทคโนโลยีและความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

         นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ เปิดเผยว่า ปัญหาสงครามราคาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกยุคในธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่หากเทียบผลลัพธ์ในระยะยาวกลับสร้างความเสียหายทั้งต่อลูกค้าและบริษัทที่ทำสงครามราคาเอง เพราะเมื่อแข่งขันกันลดราคาอย่างไม่สมเหตุสมผล บริษัทจะไม่สามารถรักษาความเสถียรของธุรกิจและคุณภาพงานก่อสร้างได้ เพราะธุรกิจรับสร้างบ้านเป็น Product Oriented ที่อยู่ได้ด้วยงานคุณภาพ ไม่ใช่แค่การตลาด เพราะบ้านเป็นการลงทุนก้อนใหญ่และระยะยาวที่เจ้าของบ้านจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปอีก 30–50 ปี ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการลดราคาจนเกินควร คุณภาพงานย่อมลดลง และสุดท้ายลูกค้าจะเสียโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต แบรนด์ของบริษัทที่ทำสงครามราคาก็จะขาดความน่าเชื่อไปโดยปริยาย

         บ้านแพงไม่แพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพและสิ่งที่ลูกค้าได้รับ หากแม้ราคาสร้างบ้านต่อตารางเมตรของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ จะอยู่ที่ 18,000 ± บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ตามปัจจัยการปรับราคาของค่าวัสดุก่อสร้างหรือค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้มูลค่าของราคาสร้างบ้านสูงกว่าบางคู่แข่งในตลาด แต่ในทางกลับกันจะเห็นได้ว่าบริษัทในกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ยังได้รับความนิยมและความเชื่อถือจากลูกค้าอย่างมากมายและต่อเนื่อง เป็นเพราะคุณภาพบ้านและบริการที่ลูกค้าได้รับ สะท้อนมุมมองของบริษัทฯ ที่ว่า “บ้านคุณภาพไม่ใช่ว่าใครจะสร้างได้”  เพราะบริษัทฯเชื่อว่าบ้านที่ดีและมีคุณภาพ แม้ราคาสูงอย่างสมเหตุสมผลก็ยังถือว่าคุ้มค่า ในขณะที่บ้านราคาถูกแต่คุณภาพต่ำ ก็กลายเป็นของแพงได้เช่นกัน ดังสำนวนที่ว่า ‘You get what you pay’ ซึ่งในธุรกิจรับสร้างบ้าน การเลือกราคาที่ต่ำเกินไปอาจต้องแลกมาด้วยคุณภาพที่ลดลง ภายใต้แรงกดดันจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

         กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ยังคงยึดแนวทาง ไม่ลดสเปก- ไม่ลดมาตรฐาน โดยเน้นบริหารต้นทุนผ่านประสิทธิภาพในการสร้างบ้านด้วยความแม่นยำของทีมงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้าง ตรวจสอบมาตรฐาน ไปจนถึงส่งมอบบ้านคุณภาพถึงมือลูกค้า โดยมองว่าเราไม่สามารถไปบีบราคาวัสดุหรือแรงงานให้ลดลงได้ สิ่งที่ทำได้คือเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการก่อสร้างให้มากขึ้น แม่นยำขึ้นและได้คุณภาพงานมากขึ้นเพื่อให้บ้านที่ส่งมอบให้กับลูกค้าออกมามีคุณภาพ นั่นคือหัวใจของการบริหารต้นทุนอย่างยั่งยืน ที่แลกมาด้วยผลลัพธ์คือลูกค้าได้บ้านคุณภาพตามที่คาดหวัง และอาจเป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านได้มากขึ้นจากความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ยังคงให้ความสำคัญเรื่องการจัดโปรโมชันในการส่งเสริมการขายและการตลาด เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าให้เร็วขึ้นในจังหวะที่เหมาะสม โดยยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่สนับสนุนการหั่นราคาเพื่อแย่งลูกค้า เพราะเชื่อว่าแบรนด์ต้องยืนอยู่บนคุณภาพไม่ใช่การทำสงครามราคา 

         ตรวจบ้านแทนลูกค้า–ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน หนึ่งในจุดแข็งของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ คือกระบวนการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดและรัดกุมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่งานออกแบบโดยสถาปนิกมืออาชีพ ทีมงานก่อสร้างที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ทีมวิศวกรควบคุมมาตรฐานงานก่อสร้างให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพบ้านจากทีม Inspector ที่รับหน้าที่ตรวจสอบแบบ Double Check เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านมีคุณภาพและได้มาตรฐาน และที่สำคัญที่สุดเรามีการแต่งตั้งคณะตรวจสอบบ้านแทนสายตาลูกค้า ที่จะเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยและมาตรฐานงานก่อสร้างทั้งงานโครงสร้าง วิศวกรรม และงานสถาปัตย์ก่อนส่งมอบจากทีมงานมืออาชีพ พร้อมรายงานจุดบกพร่องให้แก้ไขทันที เพื่อให้บ้านที่ส่งมอบถึงมือลูกค้าสมบูรณ์ที่สุด และเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

         สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน จากการเก็บข้อมูลของบริษัทฯ พบผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องคุณภาพของบ้านไม่แพ้คนรุ่นก่อนหรือมากกว่า มีการศึกษาหาข้อมูลจากหลายช่องทางมากยิ่งขึ้น ทั้งที่มาของบริษัทฯ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ โดยเฉพาะการค้นหา “รีวิวผลงานสร้างบ้าน” และจากการเข้าร่วมกิจกรรม “Site Seeing สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน” ของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุยทธ์สำคัญที่สามารถมัดใจและตอบโจทย์ข้อสงสัยของลูกค้าได้ในทุกมิติ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นในทุกขั้นตอนของการก่อสร้างตั้งแต่แรกเริ่มทั้งจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างสำเร็จรูป ไปจนถึงได้สัมผัสกับคุณภาพของงานก่อสร้างบ้าน ณ ไซต์งานจริงระหว่างก่อสร้างและที่เตรียมส่งมอบ พร้อมคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากทีมงานมืออาชีพ “เพราะเราเชื่อว่าการสร้างบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิต ลูกค้าควรได้เห็นของจริงก่อนตัดสินใจ บ้านที่ดี บริษัทที่วางใจได้ ต้องเข้ามาเห็นกับตา” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยากชี้แนะให้แก่ผู้บริโภคไว้เป็นแนวทางในการตรวจสอบข้อมูลบริษัท จากรีวิวผลงานจริงที่น่าเชื่อถือ รวมถึงผลงานที่ผ่านมา เพื่อป้องกันความเสียหายจากการเลือกบริษัทที่ไม่มีมาตรฐาน

         แนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้าน 3–5 ปี และในอนาคตข้างหน้า นายสุธี มองว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านแม้จะดูเป็นเซกเมนต์หนึ่งของภาคอสังหาริมทรัพย์  แต่แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งใน ตลาดที่มีฐานมั่นคงและเป็นความต้องการจริง (Real Demand) อยู่ตลอดเวลา เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็น “เจ้าของบ้านจริง” ที่ปลูกบ้านเพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว มีการลงทุนซื้อที่ดินหรือมีที่ดินอยู่แล้ว แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้คนอาจชะลอการใช้จ่ายเรื่องอื่น แต่เรื่องบ้านยังมีความจำเป็นและเป็นสิ่งที่หลายคนยอมลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วง 3–5 ปี และในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขาดแคลนแรงงานฝีมือ หรือค่าแรงงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะคัดกรองให้เหลือเฉพาะผู้เล่นที่มีคุณภาพและมาตรฐานจริงๆ เท่านั้นที่จะอยู่ได้ ผู้ประกอบการหรือบริษัทที่ยังพึ่งพาการลดและหั่นราคาเกินจริงก็จะอยู่ได้ยากขึ้น เพราะลูกค้าปัจจุบันมีข้อมูล ตรวจสอบมากขึ้น และมองหาความโปร่งใสในการดำเนินงาน และมีระบบหลังการขายที่มั่นใจได้เท่านั้น การแข่งขันในปัจจุบันและในอนาคตจึงมีแนวโน้มสูงที่จะเปลี่ยนจาก “ราคา” มาเป็น “ความคุ้มค่า” ซึ่งรวมถึงคุณภาพวัสดุ ความปลอดภัย แข็งแรงของโครงสร้าง และบริการหลังการขายที่สร้างความอุ่นใจให้เจ้าของบ้านในทุกเจนเนอเรชั่น

 


คลิปวิดีโอ