ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ขับเคลื่อนกิจกรรมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เดินหน้าสานต่อโครงการ “เพาะรักษ์น้ำ ฟื้นป่าคืนชีวิต” ปีที่ 2 ร่วมกับจังหวัดชลบุรี และชุมชนท้องถิ่น จัดกิจกรรมลงพื้นที่ฟื้นฟูป่า ณ ป่าชุมชนบ้านเนินตอง อ.ศรีราชา พร้อมชวนพนักงานอาสาสมัคร นักเรียนและสมาชิกชุมชนบ้านเนินตองร่วมเรียนรู้และลงมือปฏิบัติการฟื้นฟูป่าแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูก ซ่อมแซม คลุมฟาง และรดน้ำ พร้อมมอบถังเก็บน้ำให้แก่โรงเรียนบ้านเนินตอง ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการดูแลป่าและการจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน ปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนสร้างแบบอย่างการมีส่วนร่วมของเอกชน-ภาครัฐ-ชุมชนในการฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืน
นางมธุวลี สถิตยุทธการ รองประธานบริหารฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ ประเทศไทยและอินโดไชน่า บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ‘เพาะรักษ์น้ำ ฟื้นป่าคืนชีวิต’ เป็นโครงการที่บริษัทฯ ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2567 เพื่อตอกย้ำค่านิยมของซันโทรี่ ‘Growing for Good’ และ ‘Giving Back to Society’ ที่บริษัทฯ ยึดถือมาโดยตลอด ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สมาชิกชุมชน พนักงานองค์กร และสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกพื้นที่ที่บริษัทฯดำเนินงาน สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนของเรา สำหรับโครงการ ‘เพาะรักษ์น้ำ ฟื้นป่าคืนชีวิต’ ในปีที่ 2 นี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น ในการฟื้นฟูป่า รวมถึงการสร้างความเข้าใจเรื่องความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ และความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งน้ำและป่าที่อุดมสมบูรณ์ให้กับสมาชิกชุมชน โดยในปีนี้บริษัทฯ จัดกิจกรรมลงพื้นที่ ณ ป่าชุมชนบ้านเนินตอง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นผืนป่าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานของเราในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โดยเราได้รับพลังจากเหล่าพนักงานจิตอาสากว่า 40 คน ร่วมลงพื้นที่ทำกิจกรรมฟื้นฟูป่ากับนักเรียนและสมาชิกชุมชนบ้านเนินตอง ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ จังหวัดชลบุรี และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ป่าที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีนั้นเป็นแหล่งอาหารและวัตถุดิบ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง ซึ่งสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะยาว ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
กิจกรรมครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการฟื้นฟูป่าไม่ใช่เพียงการปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่คือ “กระบวนการดูแลครบวงจร” ตั้งแต่การปลูก ซ่อมแซม คลุมฟาง ไปจนถึงรดน้ำ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนอกเหนือจากโครงการ ‘วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ’ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนอนุรักษ์น้ำแล้ว โครงการ ‘เพาะรักษ์น้ำ’ ยังมุ่งเสริมพลังความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนในการฟื้นฟูป่า รักษาแหล่งน้ำ และสร้างสมดุลของธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ภายในกิจกรรม บริษัทฯ ยังได้มอบถังเก็บน้ำจำนวน 2 ถังให้แก่โรงเรียนบ้านเนินตอง โดยทุกกิจกรรมล้วนมุ่งเสริมสร้างศักยภาพในการจัดการน้ำของชุมชน ควบคู่กับการปลูกจิตสำนึกและมอบความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต”
นายอเล็กซานเดอร์ ไซมอน เรนเดลล์ ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) กล่าวว่า “EEC ดำเนินงานด้วยปรัชญาการเรียนรู้แบบ Let Nature be Our Classroom มาโดยตลอด และในครั้งนี้ เราได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘เพาะรักษ์น้ำ ฟื้นป่าคืนชีวิต’ เป็นปีที่ 2 ซึ่ง EEC ได้นำความเชี่ยวชาญในการออกแบบกิจกรรมที่สนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง หรือ hands-on learning ผ่านห้องเรียนธรรมชาติที่ป่าชุมชนบ้านเนินตอง ตั้งแต่กิจกรรม Ice Breaking ที่สร้างความใกล้ชิดระหว่างพนักงานจิตอาสาและสมาชิกชุมชน ภายใต้แนวคิด ‘น้ำ เชื่อม เรา’ ไปจนถึงทุกขั้นตอนของการฟื้นฟูป่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูผืนป่าเท่านั้น แต่ยังมุ่งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชนในพื้นที่ เพื่อปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ และหล่อหลอมให้พวกเขาเติบโตขึ้นพร้อมความรักและความหวงแหนต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
นายสราวุธ สุโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้เป็นตัวอย่างของพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ที่มุ่งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การปลูกป่าไม่เพียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังช่วยรักษาระบบนิเวศ เป็นแหล่งน้ำ อาหาร และอาชีพของคนในชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน และการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งด้านเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการสร้าง ‘ผู้นำรุ่นใหม่’ ในการดูแลป่าและน้ำของเราในอนาคต ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมนี้ขึ้นมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่ได้ร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้และนำประสบการณ์ไปต่อยอด ขยายผลสู่การดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อให้จังหวัดชลบุรีของเราน่าอยู่และเติบโตอย่างยั่งยืน”
นางสาวกิ่งดาว จีนหนู เจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้ชลบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ป่าชุมชนบ้านเนินตองมีพื้นที่กว่า 24 ไร่ เปรียบเสมือนหัวใจของชุมชนในพื้นที่แห่งนี้ ขอขอบคุณ ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) ที่ให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับภาครัฐและชุมชนในการดูแลป่าแห่งนี้ ด้วยการจัดโครงการ ‘เพาะรักษ์น้ำ ฟื้นป่าคืนชีวิต’ เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการดูแลป่าอย่างยั่งยืนให้กับผู้ร่วมกิจกรรม รวมถึงยังได้เชิญชวนพนักงานจิตอาสา หน่วยงานราชการ ชุมชน และนักเรียนในพื้นที่ มามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูป่าผืนนี้ด้วยกัน ผ่านกระบวนการดูแลป่าและต้นไม้แบบครบวงจร 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การปลูกต้นกล้าใหม่ในพื้นที่ฟื้นฟู การซ่อมแซมโดยกำจัดวัชพืชและปักหลักไม้เพื่อดูแลต้นไม้เดิมให้แข็งแรง การคลุมฟางรอบโคนเพื่อรักษาความชื้นของดินและลดวัชพืชใหม่ และการรดน้ำทั้งต้นไม้เดิมและต้นกล้าที่ปลูกใหม่ เรียกได้ว่า โครงการนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังให้องค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง ตลอดจนปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนรุ่นใหม่และคนในพื้นที่อีกด้วย”
