วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน 2568 01:58น.

“ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้ทองคำ Q4 พุ่งแรง–สิ้นปีลุ้น 3,780 ดอลลาร์/ออนซ์ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางค้าทองคำของอาเซียน

11 กันยายน 2025

         บนเวที Thailand Gold Forum 2025 นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ประกาศวิสัยทัศน์ผลักดันอุตสาหกรรมทองคำไทยสู่มาตรฐานสากล ผ่าน “สามเสาหลักเชิงกลยุทธ์” ได้แก่

       – การยกระดับมาตรฐานและความโปร่งใส

       – การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีโลก

       – การสร้างความร่วมมือเชิงระบบ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำของอาเซียน

        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ย้ำว่า หัวใจสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นในระบบ ตั้งแต่มาตรฐานงานฝีมือ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ การขนส่งที่เชื่อถือได้ ไปจนถึงการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการให้เข้าถึงง่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลและธุรกรรมเรียลไทม์ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

       ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮงร่วมกับสมาคมค้าทองคำจัดตั้ง Self-Regulatory Organization (SRO) วางกฎเกณฑ์ชัดเจนและลดความเสี่ยง เช่น การกำหนดสัดส่วนการสำรองเงินสดและทองคำขั้นต่ำ มาตรฐานร้านทองออนไลน์ที่ต้องมีหน้าร้านจริง และทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ พร้อมใช้ระบบ KYC และตรวจสอบบัญชีลูกค้าแบบเรียลไทม์ เชื่อมฐานข้อมูลกับ ปปง. เพื่อป้องกันการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย รวมถึงวางระบบชำระเงินเชื่อมต่อกับธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมง เสริมความปลอดภัยและความเชื่อมั่นทางการเงิน

        สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในไตรมาส 4/2568 นายธนรัชต์ เปิดเผยว่า ฮั่วเซ่งเฮงปรับคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปีแตะ 3,780 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราว 56,000 บาท/บาททอง จากแรงหนุนการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการประชุมเฟดวันที่ 16-17 กันยายน 2568 ถูกจับตาว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการลดดอกเบี้ยรอบใหม่ที่อาจมีต่อเนื่องอีก 1-2 ครั้ง การผ่อนคลายดังกล่าวช่วยลดต้นทุนการถือครองทองคำ กดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่า และหนุนแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน การซื้อทองคำเชิงยุทธศาสตร์ของธนาคารกลางทั่วโลกยิ่งตอกย้ำบทบาททองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

        ด้านปัจจัยในประเทศ ผู้บริหารฮั่วเซ่งเฮง มองว่า ความต้องการทองคำแท่งปีนี้ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และพบว่าตลาดภายในประเทศยังมีความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำเพิ่มสูงขึ้นกว่า 25-38% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยแนวโน้มการเติบโตของตลาดทองคำยังมีความต่อเนื่อง อีกทั้งกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจของ “ฮั่วเซ่งเฮง” ในฐานะผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมทองคำไทย จึงพร้อมที่จะยกระดับให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางการค้าทองคำของอาเซียน”  หรือ “ฮับทองคำ”  ของอาเซียนได้ในอนาคต ซึ่งสะท้อนบทบาทของไทยในฐานะตลาดหลักด้านทองคำ

        นายธนรัชต์ ยังแนะนำนักลงทุนควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนชัดเจน เลือกกลยุทธ์ให้สอดคล้อง เช่น ใช้เงินดอลลาร์เพื่อเก็บกำไรในช่วงเงินบาทแข็งค่าหรือเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนการลงทุนระยะยาวควรกระจายความเสี่ยงและทยอยสะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความผันผวนของต้นทุน มากกว่าหวังผลกำไรระยะสั้น

         “ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมทองคำไทยจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกภาคส่วนยกระดับไปพร้อมกัน ทั้งมาตรฐานที่สูงขึ้น ความเสี่ยงและต้นทุนที่ลดลง รวมทั้งผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคได้รับอย่างยั่งยืน” นายธนรัชต์ กล่าวทิ้งท้าย

 

 


ข่าวล่าสุด การตลาด more
คลิปวิดีโอ