วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน 2568 22:22น.

ประกาศปิดชายแดนแล้วมาฟังเคล็ดลับฝ่าวิกฤติทางเลือกใหม่ไปกัมพูชากับ LEO

25 มิถุนายน 2025

        บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ เตรียมพร้อมช่วยภาคธุรกิจและผู้ส่งออกไทยพลิกวิกฤตจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่มีการควบคุมเข้มและปิดด่านหลายจุด และสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง จากช่องแคบฮอร์มุซ ให้กลายเป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง เป็นทางเรือและทางรถไฟ ฟากบิ๊กบอส “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” มั่นใจการเลือกใช้เส้นทางใหม่นี้ สามารถรองรับการส่งออกที่มีความต่อเนื่องและยืดหยุ่นได้มากขึ้น

          นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การควบคุมชายแดนในจุดสำคัญส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางบกระหว่างไทย–กัมพูชาเกิดความล่าช้า ต้นทุนเพิ่มขึ้น และบางครั้งเสี่ยงต่อการเน่าเสียของสินค้า หรือขาดแคลน stock สินค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค LEO จึงแนะนำให้ผู้ส่งออกพิจารณาเส้นทางใหม่ เช่น การส่งออกทางเรือหรือทางอากาศ  หรืออีกหนึ่งทางเลือกคือการขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) โดยที่ผู้ส่งออกสามารถส่งสินค้าทางเรือไปยังประเทศเวียดนาม แล้วขนส่งทางรถบรรทุกเข้าสู่ประเทศกัมพูชาผ่านด่าน Bavet โดยการดำเนินพิธีการศุลกากรที่ด่าน Bavet นี้ มีความสะดวกเหมือนกับการดำเนินพิธีการการค้าชายแดนทั่วไปและมีขั้นตอนความยุ่งยากน้อยกว่าพิธีการศุลกากรที่ท่าเรือหรือสนามบิน และยังช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทยได้อีกด้วย

         โดยลูกค้าของบริษัทฯ จะได้รับความสะดวกและรวดเร็วสำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากรและการขนส่งจากพนักงานของบริษัท Logicam LEO (Cambodia) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ LEO ในประเทศกัมพูชา และมีแผนกให้บริการพิธีการศุลกากรและรถบรรทุกของตัวเอง และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการพิธีการศุลกากรที่ชายแดนมาอย่างยาวนาน บริษัทฯ จึงมีความพร้อมในการใช้ด่าน Bavet เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชาได้ทันที

         ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเรือหลักระหว่างเอเชีย–ยุโรป ได้สร้างความกังวลในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เส้นทางดังกล่าวใช้งานไม่ได้ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาค ด้วยเหตุนี้เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว LEO ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟจากไทย–ลาว–จีน ไปยังประเทศในทวีปยุโรป ผ่าน บริษัท ล้านช้าง เอ๊กซ์เพรส (LaneXang Express) ที่เป็นบริษัทย่อยของ LEO ซึ่งมีเครือข่ายรถไฟขนส่งสินค้าเชื่อมต่อจากประเทศไทย ผ่านลาวตอนเหนือ (เวียงจันทน์–บ่อเต็น), มณฑลยูนนานของจีน และเข้าสู่เครือข่ายรถไฟจีน–ยุโรป ซึ่งสามารถกระจายสินค้าไปยังประเทศปลายทาง เช่น เยอรมนี โปแลนด์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศในยุโรปได้ บริการนี้ตอบโจทย์ในด้าน ระยะเวลาขนส่งที่เร็วกว่าเรือ ความสม่ำเสมอของตารางเดินรถและความปลอดภัยของสินค้า เหมาะสำหรับสินค้ากลุ่ม FMCG, อุตสาหกรรม, และสินค้าเร่งด่วนที่ต้องส่งถึงตามกำหนด

         “ล้านช้าง เอ็กซ์เพรส เป็นบริษัทฯ ที่มีความพร้อมและความสามารถในการให้บริการขนส่งทางรางแบบไร้รอยต่อ (Seamless Rail Transport Services) ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพในการขนส่งสินค้าทางรางได้อย่างครบวงจรให้กับ LEO อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Emission Reduction) ภายใต้สโลแกน “โลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistics)” นายเกตติวิทย์ กล่าว

         LEO พร้อมเป็น Partner ที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ในทุกสถานการณ์ เราเชื่อว่า ทุกวิกฤตคือโอกาสในการพัฒนาและขยายช่องทางการขนส่งสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านต้นทุน เวลา และความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางส่งออกไปยังกัมพูชาผ่านเวียดนาม หรือเส้นทางส่งออกไปยุโรปผ่านระบบรถไฟ LEO มีความเชี่ยวชาญและโซลูชันครบวงจร พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถขนส่งสินค้าไปยังทุกจุดหมายปลายทางทั่วโลกอย่างมืออาชีพ

         ทั้งนี้ สำหรับนักธุรกิจที่อยากบุกตลาดกัมพูชา แต่ยังไม่แน่ใจเรื่องการส่งออกและโลจิสติกส์ สามารถมาร่วมสัมมนา หัวข้อ “คิดไว ทำไว” เปิดประตูการค้า…ขยายตลาดใหม่ให้ปังกว่าเดิม! ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 13:30–16:30 น. ณ โรงแรมแกรนด์ฮาวเวิร์ด (ห้อง Grand Howard ชั้น 5) ถนนเจริญราษฎร์ รับจำนวนจำกัดสนใจ


คลิปวิดีโอ