‘พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์’ ประกาศศักยภาพด้านความยั่งยืน ด้วยการก้าวเข้าสู่รายชื่อหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2568 ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำบทบาทขององค์กรรุ่นใหม่ที่พร้อมเติบโตอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ หรือ PMC กล่าวว่า “การที่เราได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับ ESG100 ตั้งแต่ปีแรกหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจ แต่ยังสะท้อนเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุล และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า/คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ตลอดจนในทุก ๆ มิติโดยรวม พร้อมยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นหัวใจในการบริหารจัดการองค์กร”
PMC ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พันธกิจด้านความยั่งยืน ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของสหประชาชาติ (SDGs) ได้แก่ การให้ความสำคัญในงานที่ดีและเศรษฐกิจที่เติบโต โดยบริษัทส่งเสริมการจ้างงานที่มีคุณภาพ สนับสนุนความเท่าเทียม และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเปิดกว้างสำหรับแรงงานทุกกลุ่ม รวมถึง ให้ความสำคัญในด้านอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้กระดาษจากไม้ปลูกทดแทน แทนการตัดไม้ธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อทรัพยากรโลก
อีกทั้ง ในด้านการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน บริษัทมุ่งลดการใช้ทรัพยากรโดยเน้นระบบ reuse และ recycle รวมถึงควบคุมการใช้สารเคมีและการจัดการของเสียอย่างปลอดภัย เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ PMC ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง บริการหลังการขาย ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า โดยยึดหลักความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน ตอกย้ำบทบาทของผู้ผลิตวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับฉลากสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าเติบโตอย่างมั่นคง เคียงข้างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
สำหรับการได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ ESG100 ซึ่งจัดทำโดยสถาบันไทยพัฒน์ จากการประเมินบริษัทจดทะเบียนและกองทุนรวมกว่า 900 ราย โดยอ้างอิงข้อมูลจาก 6 แหล่งหลัก รวมกว่า 17,000 จุดข้อมูล นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ PMC ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจและการขับเคลื่อนตามแนวทาง ESG อย่างเป็นรูปธรรม