บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘NTL’ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ที่แข็งแกร่ง มีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,218 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 16.6 % จากไตรมาสก่อน รายได้รวมอยู่ที่ 5,640.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกัน ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวม 104,719.4 ล้านบาท เติบโต 4.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 0.8% เทียบกับไตรมาสก่อน จำนวนลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องผ่านสาขากว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ และความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับการบริการลูกค้า โดยเฉพาะ “บัตร Tidlor” ณ เดือนมีนาคม 2568 บริษัทฯ มีบัตรที่ออกแล้วมากกว่า 741,000 ใบ เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน นอกจากนี้ กว่า 71% ของสินเชื่อทั้งหมดได้รับการประมวลผล ผ่าน ฟีเจอร์โอนเงินตรงผ่านแอปพลิเคชัน (E-Withdrawal) ของเงินติดล้อ ตอกย้ำประสิทธิภาพของนวัตกรรมดิจิทัลในการยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงินและประสิทธิภาพการให้บริการสินเชื่อ
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจนายหน้าประกันก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน ในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ บันทึกเบี้ยประกันวินาศภัยรวม 2,772.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยส่วนบุคคล และประกันภัยทรัพย์สิน ตลอดจน ช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงได้หลากหลายซึ่งสนับสนุนโดยศักยภาพ InsurTech ของบริษัทฯ Shield Insurance ซึ่ง เป็นผู้นำตลาดด้านนายหน้าประกันแบบพบหน้า ให้บริการที่ปรึกษาเฉพาะบุคคลผ่านตัวแทนประกันที่มีใบอนุญาตมากกว่า 5,000 รายที่สาขาของเงินติดล้อ และผ่านศูนย์บริการ 1501 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่การซื้อไปจนถึงการบริการเรียกร้องสินไหมทดแทน นอกจากนี้ Areegator ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันออนไลน์สำหรับเครือข่ายตัวแทน และ heygoody.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลที่ให้ประสบการณ์การซื้อด้วยตนเองที่ราบรื่นตลอด 24 ชั่วโมงทุก วัน ยังคงได้รับการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่แข็งแกร่งและผลตอบรับเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฏนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสแรกยังคงเปราะบาง โดยหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความต้องการแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึง ขยายฐานลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงใช้แนวทางที่รอบคอบในการระดมสินเชื่อใหม่ เพื่อให้คุณภาพสินเชื่ออยู่ในระดับที่ดีและสามารถจัดการได้ ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.78% ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า การปรับตัวดีขึ้นนี้เกิดจากนโยบายอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น และกระบวนการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ต้นทุนสินเชื่อลดลงเหลือ 2.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (NPL coverage ratio) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 255.7%
NTL ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยวงเงินสินเชื่อกว่า 24,000 ล้านบาท บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก TRIS Rating ที่ระดับ “A/Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตสูงสุดในอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและความพร้อมของเราที่จะเดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ยังคงเกิดขึ้น
ในกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัย บริษัทฯ ยังคงใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม InsurTech อย่างมีกลยุทธ์ในฐานะแรงขับเคลื่อนหลักเพื่อขยายฐานลูกค้าและตอบสนองความต้องการของตลาดที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จึงสนับสนุนการขยายตัวทางธุรกิจอย่างยั่งยืน